
หมอนรองกระดูก คืออะไร
กระดูกทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังในร่างกายคนเราจะมีหมอนรองกระดูกสันหลัง (intervertebral disc) อยู่บริเวณกึ่งกลางระหว่างกระดูกสันหลังระดับบน และกระดูกสันหลังระดับล่าง เพื่อช่วยในการรับและกระจายน้ำหนัก ประคองระหว่างชั้นของกระดูกสันหลัง ส่งผลให้การเคลื่อนไหว ของกระดูกสันหลังมีความยืดหยุ่น โดยหมอนรองกระดูกสันหลังจะประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ เนื้อเยื่อด้านใน (nucleus pulposus) มีลักษณะคล้ายเจล ช่วยรองรับน้ำหนัก และให้ความแข็งแรงแก่ข้อต่อในขณะที่ทำการเคลื่อนไหว และเนื้อเยื่อด้านนอก (annulus fibrosus) ซึ่งจะมีความเหนียวกว่าเนื้อเยื่อด้านใน ทำหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อทางด้านใน
ภาวะหมอนรอง กระดูกทับเส้นประสาท
กระดูกทับเส้นประสาท คือ การเคลื่อนที่ของหมอนรองกระดูกสันหลัง ออกไปจากตำแหน่งปกติของแนวกระดูกสันหลัง ส่งผลให้เกิดการกดทับต่อไขสันหลัง หรือรากประสาทในระดับที่สัมพันธ์กับหมอนรองกระดูกสันหลัง ที่มีการเคลื่อนที่นั้น ซึ่งโดยปกติแล้ว ระบบประสาทมีหน้าที่ในการรับความรู้สึก และควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดอาการปวด กล้ามเนื้ออ่อนแรงลง และชาไปตามบริเวณที่เส้นประสาทระดับนั้น ๆ มาเลี้ยง
หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทแบ่งได้ 2 แบบ คือ
- แบ่งตามระดับความรุนแรง ซึ่งแบ่งได้ 4 ระดับ คือ
- Disc bulging คือ เริ่มมีการเคลื่อนของส่วนประกอบในหมอนรองกระดูกสันหลัง และยังไม่มีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อด้านนอก
- Disc protrusion คือ ส่วนประกอบในหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนออกมามากขึ้น แต่ยังไม่มีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อด้านนอก
- Disc extrusion คือ มีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อด้านนอก และส่วนประกอบในหมอนรองกระดูกสันหลัง เคลื่อนออกมาจากฐานของส่วนประกอบในหมอนรองกระดูกสันหลังมายังช่องกระดูกสันหลัง
- Disc sequestration คือ มีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อด้านนอก และส่วนประกอบในหมอนรองกระดูกสันหลัง เคลื่อนออกมาจนไม่เชื่อมต่อ กับหมอนรองกระดูกสันหลัง
- แบ่งตามลักษณะที่มีการเคลื่อนไป
- Shoulder type คือ มีการเคลื่อน ของหมอนรองกระดูก ออกไปทางด้านข้างต่อตัวเส้นประสาทไขสันหลัง ดังนั้น ในผู้ป่วยก็จะมีการเอียงตัว ขณะยืนไปฝั่งตรงข้ามกับด้านที่มีอาการปวด
- Axillary type คือ การเคลื่อนของหมอนรองกระดูกออกไปทางด้านในต่อตัวเส้นประสาทไขสันหลัง ดังนั้น ในผู้ป่วยก็จะมีการเอียงตัวขณะยืนไปฝั่งเดียวกับด้านที่มีอาการปวด
หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท เกิดขึ้นได้อย่างไร
- กระบวนการเสื่อมถอยของร่างกายตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยเจลด้านในที่เป็นส่วนประกอบหลัก ของหมอนรองกระดูกสันหลังมีการเสื่อมสภาพ และเริ่มแห้งลง ทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสให้หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนออกมากดทับเส้นประสาทได้มากขึ้น ซึ่งกระบวนการเสื่อมถอยของร่างกายเป็นสาเหตุ ที่พบได้บ่อยที่นำไปสู่ภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท
- เกิดจากอุบัติเหตุที่มีการบาดเจ็บบริเวณหลังส่วนล่าง หรือมีการหักของกระดูกสันหลังระดับเอว
- การทำกิจกรรม หรือการใช้งานหลังไม่ถูกต้องในลักษณะของการทำซ้ำ ๆ ทำให้เกิดการเคลื่อนที่หรือฉีกขาดของหมอนรองกระดูกสันหลัง
- พฤติกรรมเนือยนิ่ง (Sedentary lifestyle) คือ กิจกรรมที่แทบไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย หรือทำกิจกรรมน้อย ทำให้กล้ามเนื้อหลังไม่แข็งแรง ส่งผลให้ความมั่นคงของแนวกระดูกสันหลังลดลง เพิ่มโอกาสในการเคลื่อนออกของหมอนรองกระดูกสันหลังได้
- การสูบบุหรี่ สามารถนำไปสู่การเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลังได้เร็วขึ้นเนื่องจากมีสารที่ทำให้เลือด และสารอาหารรวมถึงออกซิเจนไปเลี้ยงหมอนรองกระดูกสันหลังลดลง นำไปสู่การเพิ่มโอกาสของหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท
อาการและอาการแสดง
เนื่องจากการเคลื่อนของหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอว มีการเคลื่อนออกไปกดทับรากประสาท ดังนั้นอาการที่จะพบได้ จะเกิดในลักษณะของ radicular pain (sciatica) คือ เป็นอาการปวดแบบเจ็บแปล๊บ ปวดแสบปวดร้อน และมีอาการปวดรุนแรง ซึ่งอาการปวดนี้เป็นอาการปวดไปตามทางเดินของเส้นประสาท sciatic ที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณขา ทำให้มีอาการปวดร้าวลงขา มักพบว่ามีอาการปวดในขามากกว่าปวดหลัง
- ปวดหลังร่วมกับร้าวลงขา
- การรับความรู้สึกเปลี่ยนแปลงไป เช่น มีอาการชา (numbness) บริเวณขาลงไปถึงเท้า ตามบริเวณที่เส้นประสาทมาเลี้ยง
- กล้ามเนื้อต้นขา ขา หรือเท้าอ่อนแรง
- มีอาการปวดเพิ่มขึ้นขณะขยับเคลื่อนไหว ไม่สามารถเหยียดหลังตรงหรือก้มตัวได้ เปลี่ยนท่าทางลำบาก
- มีอาการปวดหลังร้าวลงขามากขึ้น ขณะไอ หรือจาม
- มีปัญหาในการควบคุมปัสสาวะ หรืออุจจาระ
การรักษา
การรักษาทางการแพทย์
การรักษาทางการแพทย์สำหรับภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท (Herniated Disc หรือ Slip Disc) ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและการตอบสนองต่อการรักษา โดยมีการรักษาหลัก ๆ ดังนี้:
1. การใช้ยา
- ยาต้านการอักเสบแบบไม่ใช้สเตียรอยด์ (NSAIDs): เช่น ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือยาแนพโรเซน (Naproxen) ช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวด
- ยาแก้ปวด: ถ้าปวดรุนแรง แพทย์อาจแนะนำยาแก้ปวดที่แรงขึ้น เช่น โอปิออยด์ (Opioids) ซึ่งมักใช้ในระยะสั้นเพื่อลดการเสี่ยงติดยา
- ยาคลายกล้ามเนื้อ: ใช้บรรเทาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งที่อาจเกิดขึ้นร่วมกับภาวะนี้
- ยาสเตียรอยด์ (Steroids): อาจใช้ในรูปแบบยากินหรือฉีดเข้าบริเวณที่มีปัญหาเพื่อช่วยลดการอักเสบและแรงกดที่เส้นประสาท
2. การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าบริเวณกระดูกสันหลัง (Epidural Steroid Injection)
แพทย์อาจฉีดยาสเตียรอยด์เข้าบริเวณที่มีหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทเพื่อบรรเทาอาการอักเสบและปวด โดยการรักษานี้สามารถลดอาการปวดได้เป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน
3. การทำกายภาพบำบัด
การรักษาด้วยกายภาพบำบัด (Physical Therapy) ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่ช่วยพยุงกระดูกสันหลัง ลดอาการปวด และป้องกันการเกิดอาการซ้ำ
4. การผ่าตัด
หากการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ไม่ได้ผลและผู้ป่วยยังคงมีอาการปวดรุนแรงหรือมีปัญหาการเคลื่อนไหว แพทย์อาจแนะนำการผ่าตัด วิธีการผ่าตัดที่ใช้กันบ่อย ได้แก่:
- Microdiscectomy: เป็นการผ่าตัดผ่านกล้องโดยทำการตัดหมอนรองกระดูกสันหลังที่กดทับเส้นประสาทออก
- Laminectomy: การผ่าตัดเพื่อลดแรงกดบนเส้นประสาทโดยการตัดส่วนของกระดูกหรือเนื้อเยื่อรอบ ๆ ที่กดทับเส้นประสาทออก
- Artificial Disc Replacement: การใส่หมอนรองกระดูกเทียมเพื่อทดแทนหมอนรองกระดูกที่เสียหาย
5. การรักษาด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
- การรักษาด้วยเลเซอร์ (Laser Surgery): ช่วยลดการกดทับของหมอนรองกระดูกและเส้นประสาท
- การรักษาด้วยการสลายหมอนรองกระดูก (Percutaneous Discectomy): เป็นการสอดเครื่องมือพิเศษเข้าไปสลายหมอนรองกระดูกที่ยื่นออกมากดทับเส้นประสาท
6. การพักผ่อนและดูแลตนเอง
- การพักผ่อนและหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดแรงกดดันต่อกระดูกสันหลังเป็นสิ่งสำคัญ โดยแพทย์อาจแนะนำให้นอนบนที่นอนแข็งพอสมควรเพื่อช่วยลดแรงกดบนกระดูกสันหลัง
7. การรักษาแบบผสมผสาน
การรักษาบางครั้งอาจใช้หลายวิธีร่วมกัน เช่น การใช้ยาร่วมกับการทำกายภาพบำบัด และการดูแลเรื่องท่าทางในชีวิตประจำวัน
หากภาวะนี้ไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เส้นประสาทเสียหายถาวร จึงควรปรึกษาแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการ
การรักษาทางกายภาพบำบัด
การรักษาทางกายภาพบำบัดสำหรับ ภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท (Herniated Disc หรือ Slip Disc) มีเป้าหมายเพื่อลดอาการปวด ช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหว และป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น ในการบำบัดนี้ จะมีการใช้เทคนิคหลากหลายเพื่อลดแรงกดบนเส้นประสาทและกระตุ้นการฟื้นฟูของหมอนรองกระดูกสันหลัง การรักษาทางกายภาพบำบัดที่ใช้บ่อยได้แก่:
การยืดเหยียดและการออกกำลังกายเฉพาะทาง: เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและข้อต่อ ลดการกดทับของหมอนรองกระดูกสันหลังบนเส้นประสาท และเสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณรอบ ๆ เพื่อช่วยพยุงกระดูกสันหลัง
การปรับเปลี่ยนท่าทาง: นักกายภาพบำบัดจะแนะนำท่าทางที่ถูกต้องในขณะทำกิจกรรมประจำวัน เช่น นั่ง ยืน ยกของ เพื่อป้องกันการกดทับที่เพิ่มขึ้นบนเส้นประสาท
การรักษาด้วยการกระตุ้นด้วยไฟฟ้า (TENS): เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าขนาดเล็กในการกระตุ้นระบบประสาทเพื่อบรรเทาอาการปวด
การบำบัดด้วยความร้อนและความเย็น: ใช้ประคบร้อนหรือเย็นเพื่อช่วยลดการอักเสบและผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่มีปัญหา
การบำบัดด้วยเลเซอร์: เพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อและลดอาการปวด
การใช้เครื่องดึงหลัง (Spinal Traction): ช่วยลดแรงกดบนหมอนรองกระดูกสันหลังโดยใช้แรงดึงเพื่อลดการกดทับของเส้นประสาท
นอกจากการบำบัดเหล่านี้ นักกายภาพบำบัดอาจแนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน รวมถึงการปฏิบัติที่ส่งเสริมให้กระดูกสันหลังแข็งแรง การรักษาอาจใช้เวลาเป็นเดือนหรือหลายเดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและการตอบสนองของร่างกาย
โรงพยาบาลกายภาพบำบัด สไมล์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็ก บริการรับดูแล และ การรักษา การบำบัด การพยาบาลและการฟื้นฟูร่างกาย ผู้สูงอายุและผู้ป่วย โดยทีมสหวิชาชีพ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลและนักกายภาพบำบัด ผ่านการรับรองมาตรฐานของกระทรวงสาธารสุข
เรารับอาสาดูแลคนที่ท่านรัก เพื่อแบ่งเบาภาระของท่าน โดยทีมงานมืออาชีพมากด้วยประสบการณ์ จากทีมงานสหวิชาชีพผู้ชำนาญการ และเราพร้อมให้บริการ ที่พักแก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ทั้งประจำและไป – กลับ รายวันและรายเดือน เช่น ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยเรื้อรัง ติดเตียง หรือต้องการพักฟื้น เน้นการฟื้นฟูและการบำบัด
Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140
Tel : 099 914 1595 ( คุณแพรว )
Line : @smilehospital24
E-mail : [email protected]
Tiktok : @smilepthospital.com
YouTube : @user-je7ou7rm9b
FaceTBook : โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ (Smile Physical Therapy Hospital)