เลขที่ใบอนุญาต 10205000165
โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ Smile Physical Therapy Hospital ให้บริการดูแลฟื้นฟู กายภาพบำบัด ผู้ป่วยทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ด้วยทีมงานคุณภาพ
ติดต่อ กายภาพบำบัด
099 914 1595 ( คุณแพรว )
เลขที่ใบอนุญาต 10205000165
ติดต่อ กายภาพบำบัด
099 914 1595 ( คุณแพรว )

ถ้าก้มเล่นมือถือมากเกินไป เสี่ยงเป็น “Text neck syndrome”

คอบ่าไหล่

ถ้าก้มเล่นมือถือมากเกินไป จะยิ่งเสี่ยงเป็น “Text neck syndrome”

(Text neck syndrome) มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการรายงานที่เพิ่มมากขึ้นของ “Text Neck syndrome” เป็นกลุ่มอาการที่ปวดบริเวณ คอบ่าไหล่ และอาจจะรวมไปถึงการเสื่อมของข้อต่ออีกด้วย หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอ
ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21 เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาต่าง ๆ  เช่น แท็บเล็ต  โทรศัพท์มือถือ และ E-readers เพื่อช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ในทางกลับกัน การที่เราใช้งานมากเกินไป การก้มศีรษะไปข้างหน้าบ่อยครั้งขณะใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ ส่งผลให้เกิดความเครียดที่ข้อต่อ และโครงสร้างรอบ ๆ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน Text Neck syndrome นั้นพบได้มากในช่วงวัยรุ่น ถือเป็นจุดเริ่มต้นของอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งนี้ผู้ที่ใช้งานในลักษณะนี้ มักจะเริ่มที่จะมีความเสื่อมของกระดูกสันหลังส่วนคอ ในช่วงวัยที่ลดลงเรื่อย ๆ และกำลังส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมากได้ในทุกช่วงวัยที่การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นสิ่งจำเป็นในปัจจุบัน และแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้คนจำนวนหลายล้านคนเลยทีเดียว ยุคปัจจุบันการใช้โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมากกว่าในอดีต โดยรวมหลายชั่วโมงต่อวัน และหลายวันต่อปี มีการประมาณกันว่า 75% ของประชากรโลกเกิดภาวะนี้ เพราะว่าการก้มคอใช้โทรศัพท์มือถือในแต่ละวันนั่นเองค่ะ

ตัวอย่างการศึกษาหนึ่งพบว่า 79% ของผู้ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 44 ปีมีโทรศัพท์มือถือติดตัวตลอดทั้งวัน โดยอ้างอิงจาก Times of India’s ล่าสุด ผลสำรวจออกมาว่าผู้ใหญ่ชาวอินเดีย 82 ล้านคนมีการใช้สมาร์ทโฟนเฉลี่ย 3 ชั่วโมงต่อวัน ในขณะที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนสูงสุดคือ 8-10 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการใช้โทรศัพท์มือถือพกพาช่วงของ วัยเด็กและวัยรุ่นส่วนใหญ่ใช้เวลาเฉลี่ย 5 ถึง 7 ชั่วโมงต่อวัน ในการอ่าน และการส่งข้อความ ซึ่งจะส่งผลที่ค่อนข้างน่าตกใจ คือจากท่าทางการใช้งานส่งผลให้เกิดความเครียดส่วนเกินต่อบริเวณกระดูกสันหลังส่วนคอมีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 1,825 ถึง 2,555 ชั่วโมงต่อปี เราจึงมักจะพบเจอปัญหาของอาการปวดคอ หรือปัญหาทางระบบกระดูก และ กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องในประชากรอายุน้อยขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ผู้เชี่ยวชาญต้องประเมิน และคัดกรองมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสม ทั้งนี้เพื่อสามารถวินิจฉัย และรักษาตั้งแต่ในวัยเด็กได้อย่างทันท่วงที

พยาธิวิทยาของการเกิดภาวะ Text neck syndrome คอบ่าไหล่

คอบ่าไหล่ น้ำหนักของกะโหลกศีรษะ ต่อแนวกระดูกสันหลังส่วนคอ จะเพิ่มมากขึ้น ก็ต่อเมื่อเราก้มคอไปด้านหน้า และปริมาณของน้ำหนักจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงองศา ปกติเมื่อศีรษะอยู่ในแนวตรง (0 องศา) จะมีน้ำหนักกะโหลกศีรษะประมาณ 5 กิโลกรัมกระทำอยู่กับแนวกระดูกสันหลังส่วนคอ และกล้ามเนื้อโดยรอบ เมื่อก้มศีรษะมากขึ้นที่ 15 องศา แรงเครียดที่คอจะเพิ่มมากขึ้นกว่า 2 เท่าคือประมาณ 12 กิโลกรัม ถ้าหากก้มที่ 30 องศาน้ำหนักกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้นเป็น 18.14 กิโลกรัม และ 22.23 กิโลกรัมเมื่อก้ม 45 องศาตามลำดับ และถ้าเราก้มคอที่มุม 60 องศาน้ำหนักที่เกิดขั้นมากถึง 27.22 กิโลกรัม กันเลยทีเดียว ไม่เพียงแต่ระดับองศาของการก้มคอเท่านั้น ที่ส่งผลต่อความเครียดโครงสร้างต่าง ๆ ของรอบคอ แต่ความถี่ของการที่ศีรษะอยู่ในแนวนี้ส่งผลกระทบเพิ่มเติมต่อสรีรวิทยาของคอด้วย

ลักษณะทางคลินิก

ปัจจัยหลักที่ทำให้อาการรุนแรงเพิ่มมากขึ้น คือการที่ก้มศีรษะเป็นเวลานาน ซึ่งส่งผลต่อกระดูกสันหลังส่วนคออยู่ในท่างอตามไปด้วย เช่น เมื่อใช้โทรศัพท์มือถือ อ่านหนังสือหรือแท็บเล็ต เมื่อยื่นศีรษะไปด้านหน้าขณะมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดการยื่นของศีรษะไปด้านหน้า (Forward head posture/Turtle neck posture) สูงขึ้น ส่งผลให้สูญเสียความโค้งในลักษณะตัว “C” (Lordosis) ตามธรรมชาติของกระดูกสันหลังส่วนคอระดับล่างร่วมกับการโค้งมากขึ้นของกระดูกสันหลังส่วนอก (Hyperkyphosis) อาจทำให้เกิดภาวะของกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น Upper crossed syndrome ท่าเหล่านี้ส่งจะผลต่อเส้นใยกล้ามเนื้อรอบข้อต่อคอสั้นลงเกิดความเครียดภายในกระดูกสันหลัง และหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอ และการยืดเนื้อกล้ามเนื้อรอบข้อต่อที่มากเกินไป (Overstretching) เนื่องจากทำท่าทางที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงการจัดตำแหน่งร่างกายที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม อาจจะส่งผลต่อรูปแบบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ เกิดอาการปวดคอเรื้อรังได้ และปวดหลังส่วนบน ปวดไหล่ ปวดศีรษะ ไมเกรน มีอาการนอนไม่หลับ รู้สึกเสียวซ่า ชาในมือ และกล้ามเนื้อไหล่อ่อนแรง ข้ออักเสบเรื้อรัง เส้นประสาทอักเสบ เป็นต้น

นอกจากนี้การนอนในท่าที่ไม่เหมาะสม กับความโค้งของแนวกระดูกสันหลังส่วนคอและหลัง เช่น นอนตะแคงเป็นรูปตัวซี (C) ก็ส่งผลให้เกิดการยื่นของศีรษะไปด้านหน้าได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ยังอาจจะเกิดปัญหาความไม่สบายตา และปัญหาการมองเห็นเมื่อจ้องที่หน้าจอเป็นเวลานาน ๆ  ระดับความรู้สึกไม่สบาย จะเพิ่มขึ้นตามปริมาณการใช้งานได้อีกด้วย นอกจากอาการดังที่กล่าวไปแล้วมีรายงานเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบทางเดินหายใจ ระบบย่อยอาหาร  ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบประสาทที่ผิดปกติไปจากเดิม ซึ่งในวัยเด็กและวัยรุ่นส่วนใหญ่อาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวหากยังคงมีการใช้งานในลักษณะที่ต้องก้มคออยู่ตลอด และแน่นอนว่าต้องมีผลกระทบในระยะสั้นบ้าง ไม่มากก็น้อยแต่มักสังเกตเห็นไม่ชัดเท่าในวัยผู้ใหญ่ ถึงอย่างไรย่อมมีผลต่อคุณภาพชีวิต ในอนาคตอย่างแน่นอน

การป้องกัน

การป้องกันเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดในการทำให้ไม่เกิดผลเสียต่อร่างกายในอนาคตของเรา จะต้องตระหนักว่า ถ้ายิ่งป้องกันได้ในวัยที่น้อยเท่าไหร่ จะยิ่งทำให้ห่างไกลจาก Text neck syndrome ง่ายขึ้นเท่านั้น

  • หลีกเลี่ยงการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในท่าก้มคอมากเกิน หรือคอยื่นไปด้านหน้ามากเกินไป
  • หลีกเลี่ยงท่าทางที่อยู่นิ่งเป็นระยะเวลานาน ๆ และควรจะเปลี่ยนอิริยาบถทุก ๆ  30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
  • การปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมไปถึง จัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานอยู่ในแนวที่เหมาะสม เพื่อลดแรงกดที่ศีรษะ คอ และแขน เช่น การตั้งคอมพิวเตอร์พกพาให้หน้าจออยู่ในแนวระดับสายตา ไม่ก้มคอจนเกินไป หรือการใช้ที่ตั้งแท็บเล็ตช่วยลดการก้มคอและการถือค้างนานจนมีอาการปวดบ่าและแขน เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ กัน เช่น การพิมพ์หรือการปัดนิ้วในท่าเดิมต่อเนื่องเป็นเวลานาน
  • หลีกเลี่ยงการถืออุปกรณ์ขนาดใหญ่หรือหนักด้วยมือเดียว
  • ควบคุมปริมาณแสงและแสงสะท้อนบนหน้าจออุปกรณ์ต่าง ๆ การหยุดพักเป็นระยะยังช่วยให้ดวงตาไม่เกิดการล้าจนเกินไป

ข้อแนะนำเพิ่มเติมในวัยเด็กจากข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลียปี 2012

  1. ในเด็กที่ช่วง อายุน้อยกว่า 2 ปี จะแนะนำให้ไม่ควรใช้เวลาดูทีวีมาก หรือใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ และเกมอิเล็กทรอนิกส์
  2. ในเด็กที่ช่วง อายุ 2-5 ปี จะใช้งานไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน ในการนั่งดูโทรทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ชนิดอื่น ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ และเกมอิเล็กทรอนิกส์
  3. ในเด็กที่ช่วง ทารก เด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน ไม่ควรที่จะอยู่นิ่งหรือถูกควบคุมให้อยู่เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ยกเว้นการนอนหลับ

ถ้าหากพบว่าตัวเองเสพติดมือถือมากจนเกินไป ให้คุณลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และสร้างวินัยในการใช้มือถือให้กับตนเองให้มากยิ่งขึ้น เพราะปัญหานี้นั้นอยู่ใกล้ตัวเรามาก และในปัจจุบัน Text Neck syndrome พบในวัยที่น้อยลงเรื่อย ๆ ทั้งในวัยเด็กหรือวัยรุ่นเองซึ่งเป็นการดีกว่าหากเราป้องกันไว้ก่อนที่ปัญหาอาการปวดคอ บ่า หรือไหล่มากขึ้นจนสายเกินแก้

โรงพยาบาลกายภาพบำบัด สไมล์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็ก บริการรับดูแล และ การรักษา การบำบัด การพยาบาลและการฟื้นฟูร่างกาย ผู้สูงอายุและผู้ป่วย โดยทีมสหวิชาชีพ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลและนักกายภาพบำบัด ผ่านการรับรองมาตรฐานของกระทรวงสาธารสุข

เรารับอาสาดูแลคนที่ท่านรัก เพื่อแบ่งเบาภาระของท่าน โดยทีมงานมืออาชีพมากด้วยประสบการณ์ จากทีมงานสหวิชาชีพผู้ชำนาญการ และเราพร้อมให้บริการ ที่พักแก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ทั้งประจำและไป – กลับ รายวันและรายเดือน เช่น ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยเรื้อรัง ติดเตียง หรือต้องการพักฟื้น เน้นการฟื้นฟูและการบำบัด

Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140

Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140

Tel : 099 914 1595 ( คุณแพรว )

Line : @smilehospital24

E-mail : [email protected]

Tiktok : @smilepthospital.com

YouTube : @user-je7ou7rm9b

FaceTBook : โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ (Smile Physical Therapy Hospital)

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top
กายภาพบำบัด

099 914 1595 คุณแพรว