
บทบาทของนักกายภาพบำบัดในผู้ป่วยกระดูกหัก
กระดูกหัก (bone fracture) คือ ผู้ป่วยกระดูกหัก ภาวะที่กระดูกได้รับแรงกระแทกมากเกินไป ส่งผลให้กระดูกไม่สามารถรองรับน้ำหนักจากแรงดังกล่าวได้จนเกิดการหัก ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ กระดูกหักชนิดไม่มีแผล (closed fracture) และกระดูกหักแบบแผลเปิด (open fracture)
ผู้ป่วยกระดูกหัก การรักษากระดูกหัก
ผู้ป่วยกระดูกหัก แนวทางการรักษากระดูกหักขึ้นอยู่กับความรุนแรงและชนิดของกระดูกหัก ตำแหน่งของกระดูกที่หัก อายุของผู้ป่วย และดุลพินิจของแพทย์ โดยการรักษาจะมี 2 แบบ ได้แก่
- การรักษาแบบไม่ผ่าตัด คือ จะใช้วิธีการเข้าเฝือก โดยทำการจัดเรียงแนวกระดูกที่ได้รับบาดเจ็บให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งปกติก่อนใส่เฝือก มักใช้กับกระดูกส่วนแขนหรือขาท่อนล่าง
- การรักษาแบบผ่าตัด จะทำก็ต่อเมื่อผู้ป่วยที่เกิดกระดูกหักร้ายแรง มีความเสียหายที่ผิวหนัง การหักของกระดูกผ่านผิวข้อและเกิดการเคลื่อนของผิวข้อ กระดูกสะโพกหัก เป็นต้น ทั้งนี้ ระหว่างเข้ารับการผ่าตัดแผล แพทย์อาจใส่หมุด แผ่นเหล็ก สกรู หรือกาว เพื่อยึดกระดูกที่หักเข้าไว้ด้วยกัน
กายภาพบำบัดในกระดูกรยางค์แขนหัก
การรักษาทางกายภาพบำบัดในกระดูกรยางค์แขนหัก แบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ
- ระยะที่ 1: 1–2 สัปดาห์แรก ออกกำลังกายข้อต่อด้วยการเกร็งกล้ามเนื้อค้างไว้ หรือทำการออกกำลังกายโดยที่มีผู้อื่นทำให้ ในทุกทิศทางเท่าที่ทนเจ็บไหวและเท่าที่แพทย์กำหนด เพื่อกันไม่ให้เกิดการติดของข้อต่อ
- ระยะที่ 2: 4-6 สัปดาห์ เริ่มให้ผู้ป่วยออกกำลังกายด้วยตัวเอง โดยอาจต้องมีคนอื่นช่วยประคองอยู่บ้าง
- ระยะที่ 3: 6–8 สัปดาห์ อาจเริ่มมีการใส่แรงต้านในการออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
- ระยะที่ 4: หลังจากสามารถออกกำลังกายโดยใส่แรงต้านได้ตามปกติแล้ว จึงเริ่มออกกำลังกายตามท่าทางเฉพาะ เช่น ท่าทางที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน
1. กระดูกไหปลาร้าหัก ส่วนมากจะได้รับการรักษาโดยไม่ผ่าตัด โดยแพทย์จะให้ใส่เฝือกพยุง หรือใช้เพียงผ้าคล้องแขนเฉพาะข้างที่หัก 2–3 สัปดาห์ เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของกระดูกที่หักและส่งเสริมให้กระดูกเชื่อมติดกันโดยไวและไม่ผิดรูป แต่ปัจจุบันแพทย์เริ่มนิยมผ่าตัดดามกระดูกเพื่อให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวและใช้งานแขนได้ไวขึ้น
- ในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัด นักกายภาพบำบัดจะเริ่มให้ผู้ป่วยขยับข้อไหล่และข้อศอกได้ในวันที่ 2 หลังการผ่าตัด เพื่อเพิ่มองศาการเคลื่อนไหวข้อไหล่ แต่ไม่ให้ยกไหล่เกิน 70 องศา โดยในช่วงนี้การออกกำลังกายที่แนะนำคือ การออกกำลังแขนแบบลูกตุ้มนาฬิกา (Codman pendulum exercise) วิธีการคือให้นอนคว่ำ ปล่อยแขนข้างที่หักลงข้างเตียง แล้วแกว่งแขนเป็นวงกลมเล็ก ๆ ช้า ๆ และสามารถเริ่มออกกำลังกายแบบมีแรงต้านได้หลังผ่านไป 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นเมื่อครบ 5 สัปดาห์ ผู้ป่วยควรจะสามารถเคลื่อนไหวข้อไหล่ได้เป็นปกติ และมีกำลังกายเนื้อเทียบเท่ากับก่อนที่จะเกิดกระดูกหัก
- ในผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการผ่าตัด จะให้ผู้ป่วยออกกำลังกายข้อไหล่แบบเกร็งกล้ามเนื้อต้านแรงค้างไว้โดยไม่มีการเคลื่อนไหว (isometric exercise) เป็นเวลา 2–3 สัปดาห์หลังกระดูกหัก จากนั้นจึงให้ออกกำลังกายแบบเต็มช่วงการเคลื่อนไหวในทุกทิศทาง ซึ่งระหว่างทำต้องไม่มีอาการเจ็บปวด
2. กระดูกต้นแขน บริเวณที่หักบ่อยมี 3 บริเวณ ได้แก่ ส่วนต้นกระดูก ส่วนกลาง และปลายกระดูก มักเกิดจากอุบัติเหตุกระแทกรุนแรง หรือการหกล้มมือยันพื้น โดยวิธีการรักษาจะพิจารณาจากรูปแบบการหัก ถ้าการหักนั้นมีความมั่นคง แพทย์มักจะไม่ทำการผ่าตัด แต่ถ้าหากการหักนั้นมีอันตรายร่วมด้วย แพทย์มักจะให้การรักษาโดยการผ่าตัด ซึ่งการหักของกระดูกต้นแขนนี้ข้อไหล่มักเสี่ยงต่อการยึดติด ดังนั้นจึงต้องเคลื่อนไหวข้อต่อให้เร็วที่สุดคืออย่างน้อยหลังผ่าตัดหรือหลังการบาดเจ็บ 7 สัปดาห์ หรือภายใต้คำแนะนำของแพทย์
3. กระดูกปลายแขน การหักได้ 2 บริเวณ คือส่วนหัวและส่วนปลาย หากไม่มีการแตกหักรุนแรงหรือกระดูกเคลื่อนแพทย์มักให้ผู้ป่วยใส่เฝือกคลุมตั้งแต่ใต้ศอกถึงโคนนิ้วมือ โดยให้ข้อมืออยู่ในท่างอเล็กน้อย ประมาณ 10–20 องศา เป็นเวลา 6–8 สัปดาห์ โดยผู้ป่วยควรมีการออกกำลังกายโดยการเกร็งกล้ามเนื้อที่อยู่ในเฝือกอย่างสม่ำเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการอ่อนแรงและฝ่อลีบของกล้ามเนื้อ
กายภาพบำบัดในกระดูกรยางค์ขาหัก
- กระดูกสะโพก มักเกิดในผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี จากอุบัติเหตุมีการกระแทกรุนแรง เช่น การหกล้มขณะยืนเดิน หรือการผลัดตกจากเตียงแล้วสะโพกกระแทกพื้น โดยแพทย์มักรักษาด้วยการผ่าตัดใส่อุปกรณ์ยึดกระดูก หรือรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกในรายที่มีแนวโน้มที่จะเกิดกระดูกตายสูง ถึงแม้จะยังมีอาการปวดอยู่ แต่นักกายภาพบำบัดมักจะแนะนำให้ผู้ป่วยออกกำลังกายตั้งแต่วันแรกหลังการผ่าตัดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน โดยนักกายภาพบำบัดจะกระตุ้นผู้ป่วยลุกนั่งข้างเตียงในวันแรก และเริ่มลุกยืนเดินในวันที่ 2 หรือ 3 หลังการผ่าตัด โดยใช้ไม้ค้ำยันช่วยพยุงตัว และยังมีการฝึกพาะอื่น ๆ เช่น ฝึกการหายใจเข้า-ออกเพื่อป้องกันการเกิดภาวะปอดแฟบ และการออกกำลังกายขาเพื่อป้องกันหรือลดอาการบวม เป็นต้น โดยการลงน้ำหนักที่ขาข้างที่หักนั้นขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้กำหนด ส่วนมากจะเริ่มต้นด้วยการห้ามผู้ป่วยลงน้ำหนักเลย และหากมีการผ่าตัดใส่อุปกรณ์ยึดกระดูกแพทย์มักให้ลงน้ำหนักเพียงเล็กน้อยในช่วง 8–10 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นจึงสามารถลงน้ำหนักและออกกำลังโดยใช้แรงต้านได้เต็มที่
- กระดูกสะบ้า มักหักจากแรงกระแทกที่เข่าโดยตรง หรือการหดตัวของกล้ามเนื้อหน้าขาอย่างรุนแรง แพทย์มักให้การรักษาด้วยการผ่าตัดและใส่เฝือกในท่างอเข่าประมาณ 40–60 องศา เป็นระยะเวลา 2–3 วัน หลังจากนั้นจึงจะสามารถลงน้ำหนักได้เล็กน้อยเท่าที่ผู้ป่วยทนไหวนาน 6 สัปดาห์ จากนั้นจึงจะเริ่มออกกำลังกายงอและเหยียดเข่าได้
- กระดูกหน้าแข้ง มักได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดและให้นอนยกขาสูงงอเข่าประมาณ 45-60 องศาเป็นระยะเวลา 2-3 วัน และเมื่อแผลผ่าตัดแห้งดีแล้วให้ออกกำลังกายข้อเข่าทันที โดยภายในสัปดาห์แรกหลังแผลแห้งดีแล้วควรงอเข่าให้ได้ประมาณ 120 องศา และงอได้สุดใน 2-3 สัปดาห์ โดยแพทย์จะให้เดินแบบไม่ลงน้ำหนักที่ขาหรือลงได้เพียงเล็กน้อยเป็นระยะเวลา 10-12 สัปดาห์
โรงพยาบาลกายภาพบำบัด สไมล์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็ก บริการรับดูแล และ การรักษา การบำบัด การพยาบาลและการฟื้นฟูร่างกาย ผู้สูงอายุและผู้ป่วย โดยทีมสหวิชาชีพ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลและนักกายภาพบำบัด ผ่านการรับรองมาตรฐานของกระทรวงสาธารสุข
เรารับอาสาดูแลคนที่ท่านรัก เพื่อแบ่งเบาภาระของท่าน โดยทีมงานมืออาชีพมากด้วยประสบการณ์ จากทีมงานสหวิชาชีพผู้ชำนาญการ และเราพร้อมให้บริการ ที่พักแก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ทั้งประจำและไป – กลับ รายวันและรายเดือน เช่น ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยเรื้อรัง ติดเตียง หรือต้องการพักฟื้น เน้นการฟื้นฟูและการบำบัด
Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140
Tel : 099 914 1595 ( คุณแพรว )
Line : @smilehospital24
E-mail : [email protected]
Tiktok : @smilepthospital.com
YouTube : @user-je7ou7rm9b
FaceTBook : โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ (Smile Physical Therapy Hospital)