เลขที่ใบอนุญาต 10205000165
โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ Smile Physical Therapy Hospital ให้บริการดูแลฟื้นฟู กายภาพบำบัด ผู้ป่วยทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ด้วยทีมงานคุณภาพ
ติดต่อ กายภาพบำบัด
099 914 1595 ( คุณแพรว )
เลขที่ใบอนุญาต 10205000165
ติดต่อ กายภาพบำบัด
099 914 1595 ( คุณแพรว )

การออกกำลังกายในผู้ป่วยพาร์กินสัน

ผู้ป่วยพาร์กินสัน

การออกกำลังกายใน (Parkinson’s disease)

โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) หรือโรคสันนิบาต ผู้ป่วยพาร์กินสัน เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อม แบบไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของเซลล์สมอง ส่งผลให้มีการผลิตสารสื่อประสาทที่ชื่อว่า โดปามีน (Dopamine) ลดลง ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญ ในการควบคุม การเคลื่อนไหวของร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคพาร์กินสันมักพบว่ามีอาการผิดปกติทางด้านการเคลื่อนไหว อีกทั้งยังอาจมีความผิดปกติในด้านจิตใจ และอารมณ์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วย กลุ่มนี้มีบุคลิกภาพ ความคิด และความจำเปลี่ยนไป โดยโรคนี้สามารถพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ และบางรายอาจเกิดได้จาก สารเคมีหรือยาบางชนิดทำให้มีอาการ เหมือนโรคพาร์กินสัน ซึ่งผู้ป่วยจำเป็นจะต้อง ได้รับการวินิจฉัยทางการแพทย์

ผู้ป่วยพาร์กินสัน ปัจจัยเสี่ยงของโรคพาร์กินสัน

ผู้ป่วยพาร์กินสัน
  • อายุ โดยมากโรคพาร์กินสันจะพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
  • เพศ ส่วนมากจะพบในเพศชาย มากกว่าเพศหญิง
  • เชื่อชาติ มักพบในคนทางตอนเหนือ ของยุโรป และอเมริกา
  • พันธุกรรม สามารถพบโรคพาร์กินสัน ที่เป็นกันในครอบครัวได้ แต่พบได้น้อย
  • สิ่งแวดล้อม อาจเกิดจากการติดเชื้อ หรือการได้รับสารพิษบางชนิด

อาการแสดงของโรคพาร์กินสัน

  1. อาการสั่น (tremor) มักเกิดที่มือหรือขาขณะที่อยู่นิ่ง ในระยะเริ่มแรกจะเป็นเพียงข้างเดียว และต่อมาอาจมีอาการสั่นของระยางค์ทั้งสองข้าง คางหรือศีรษะได้ โดยอาการสั่นมักหายไปเมื่อมีการเคลื่อนไหว และจะมีอาการสั่นมากขึ้นเมื่อมีภาวะตึงเครียด
  2. อาการเกร็ง (rigidity) คือ อาการที่กล้ามเนื้อมีความตึงตัวเพิ่มขึ้น มีอาการเกร็งแข็งตลอดเวลา มักเป็นที่กล้ามเนื้อคอ หลัง และส่วนต้นของแขนหรือขาก่อน ต่อมาเมื่อมีอาการเพิ่มขึ้น จะเริ่มมีอาการเกร็งส่วนปลายของมือ และเท้าตามมา
  3. อาการเคลื่อนไหวช้า (bradykinesia) คือ การที่ต้องใช้ระยะเวลาเพิ่มขึ้น ในการเริ่มการเคลื่อนไหว มักเกิดข้างเดียวกับข้างที่มีอาการสั่น แต่เมื่อมีอาการเพิ่มขึ้น อาการเคลื่อนไหวช้าจะเริ่มเกิดที่ลำตัว ศีรษะและระยางค์อีกข้าง
  4. อาการสูญเสียการทรงตัว (postural instability) คือ อาการที่มีการทรงตัวลำบาก ก้าวขาไม่ออกขณะเดิน ทำให้เสี่ยงต่อการล้มได้ง่าย

และนอกจากนี้ยังมีอาการต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นร่วมได้ เช่น มีการพูดช้า เสียงเบา เขียนหนังสือช้าลง หรือเขียนตัวเล็กลงเรื่อย ๆ มีภาวะกลืนลำบาก น้ำลายไหล ท้อแท้ ซึมเศ้รา นอนไม่หลับ เห็นภาพหลอน เป็นต้น

ระดับความรุนแรงของโรคพาร์กินสัน

  • ระยะที่ 1 มีความผิดปกติ ของการเคลื่อนไหว เพียงเล็กน้อย ที่แขนหรือขา เพียงซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย
  • ระยะที่ 2 มีความผิดปกติ ของการเคลื่อนไหว เพียงเล็กน้อย ที่แขนหรือขา ทั้งสองข้างของร่างกาย
  • ระยะที่ 3 มีความผิดปกติ ของการเคลื่อนไหว ทั้งสองข้างร่วมกับความผิดปกติ ในการทรงตัวให้สมดุล พบว่ามีอาการเกร็ง (rigidity)
  • ระยะที่ 4 มีอาการแสดงทั้งสี่อาการ มีความผิดปกติของการเคลื่อนไหวมาก และต้องได้รับการช่วยเหลือพอสมควรในการดำเนินชีวิต
  • ระยะที่ 5 มีความผิดปกติ ของการเคลื่อนไหวอย่างมาก และมักใช้ชีวิตอยู่กับเตียง หรือรถเข็น
วิธีการดูแลตัวเองของผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
  1. การรับประทานยา รักษาโรคพาร์กินสัน โดยเป็นยาที่สามารถ ช่วยควบคุมอาการของโรคให้ลดลง ซึ่งผู้ป่วยจำเป็นจะต้องได้รับยาตลอด ต่อเนื่อง และตรงต่อเวลา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
  2. การออกกำลังกายเพื่อการบำบัดรักษา ซึ่งเป็นวิธีที่มีความสำคัญ ต่อการชะลอการดำเนินของโรคได้ โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มเป็นพาร์กินสันในระยะแรก ๆ การออกกำลังกาย ที่แนะนำ ได้แก่
  • การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic exercise) อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ระยะเวลา 15-45 นาทีต่อครั้ง โดยสำหรับผู้เริ่มต้น ให้เริ่มที่ 15 นาทีก่อน และค่อย ๆ เพิ่มเวลาไปเรื่อย ๆ จนถึง 45 นาที การออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่แนะนำ เช่น การเดินบนพื้นราบ การเดินในน้ำ เป็นต้น
  • การยืดกล้ามเนื้อ (Stretching exercise) เป็นการออกกำลังกายเพื่อเพิ่ม ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ โดยควรทำทั้งก่อนออกกำลังกาย เพื่อเป็นการอบอุ่นร่างกาย และหลังออกกำลังกาย เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
  • การออกกำลังกายแบบอื่น ๆ ที่เป็นกิจกรรมที่ผู้ป่วยชื่นชอบ เช่น การเต้นรำ การว่ายน้ำ การปั่นจักรยาน โยคะ (Yoga) หรือไทเก๊ก (Tai-Chi) เป็นต้น
  1. การฟื้นฟูสภาพจิตใจและสังคม เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการบำบัดรักษา ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันและผู้ดูแลจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคอย่างถูกต้อง บุคคลรอบข้างต้องมีความเชื่อมั่น และมีกำลังใจ เพื่อช่วยลดความเครียด และความวิตกกังวล เพราะเมื่อมีจิตใจที่เข้มแข็ง ก็จะส่งผลต่อร่างกายให้ แข็งแรงด้วย การรักษาบำบัดจึง จะได้ประสิทธิภาพสูงสุด
  2. การรักษาด้วยการผ่าตัด โดยจะทำการผ่าตัด เพื่อฝังเครื่องกระตุ้นสมองส่วนลึก ด้วยไฟฟ้า (deep brain stimulation) และการผ่าตัดแบบทำลาย โดยใช้คลื่นวิทยุ (radio frequency ablative surgery)
บทบาทของกายภาพบำบัดต่อผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
  1. ประเมินความสามารถในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ป่วย และประเมินระยะการดำเนินโรค
  2. ลดอาการปวดและความตึงตัวของกล้ามเนื้อ
  3. ยืดกล้ามเนื้อเพื่อป้องกันกล้ามเนื้อหดรั้ง
  4. ช่วยฟื้นฟู สมรรถภาพการทำงาน ของหัวใจและปอด เช่น การฝึกการหายใจ เพื่อช่วยเพิ่มการขยายตัวของทรวงอก
  5. การออกกำลังกายเพื่อการบำบัดรักษา
  6. แนะนำวิธีการเดิน และการใช้อุปกรณ์ช่วยเดินต่าง ๆ
ตัวอย่างการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
  • การยืดกล้ามเนื้อก่อนการออกกำลังกาย เช่น การยืดกล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้อลำตัว กล้ามเนื้อหลัง และกล้ามเนื้อน่อง
  • การออกกำลังกาย เช่น ท่าบริหารกล้ามเนื้อรอบเข่า โดยการยืนย่อ หรือลุกขึ้นยืน-ลงนั่งบนเก้าอี้ ท่าบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อสะโพก โดยการยืนเตะขาในทิศทางต่าง ๆ ท่าบริหารโดย การฝึกถ่ายน้ำหนักในทิศทางต่าง ๆ ท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง โดยการนอนหงายชันเข่า แล้วยกตัวขึ้นให้สะบักลอยพ้นพื้น
  • การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หลังการออกกำลังกาย โดยการยืดกล้ามเนื้อ บริเวณต่าง ๆ ร่วมกับการหายใจเข้า-ออกช้า ๆ
Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140

Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140

Tel : 099 914 1595 ( คุณแพรว )

Line : 082 978 5966

E-mail : [email protected]

Tiktok : @smilepthospital.com

YouTube : @user-je7ou7rm9b

FaceTBook : โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ (Smile Physical Therapy Hospital)

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top
กายภาพบำบัด

099 914 1595 คุณแพรว