การเสริมสร้างแรงจูงใจให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
โดย ผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง จะได้รับผลกระทบต่อความสามารถในทักษะในด้านต่าง ๆ ของผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกายของผู้ป่วย ทางด้านความรู้ความเข้าใจ และทางด้านการสื่อสาร ที่ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถจะทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านจิตใจ ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และมักจะพบภาวะซึมเศร้าถึงร้อยละ 33.6 ซึ่งจะพบได้มากสุดในช่วง 1 เดือนแรกของการเจ็บป่วย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุ เนื่องจากสภาพร่างกายของผู้ป่วยสูงอายุ และจิตใจ ตลอดจนความสามารถในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เสื่อมถอยลง จากภาวะดังกล่าวส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกเฉื่อยชา รวมถึงมีอาการเบื่อหน่าย และมีการลดลงของแรงจูงใจ
แรงจูงใจ (ผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง)
ผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง แรงจูงใจ คือ กระบวนการของสมองและจิตใจ ที่กระตุ้นให้บุคคลกระทำในสิ่งต่าง ๆ ให้บรรลุเป้าหมาย เป็นปัจจัยที่สำคัญในการกำหนดพฤติกรรมของมนุษย์ จากทฤษฎีการควบคุมด้วยตนเอง (Self-determination theory) ได้อธิบายว่าการในสร้างแรงจูงใจในมนุษย์ จำเป็นที่จะต้องตอบสนองความต้องการพื้นฐานภายในจิตใจ 3 ประการ ได้แก่ ความต้องการในการกำหนด หรือการตัดสินใจด้วยตนเอง (Need for autonomy) ความต้องการมีความสัมพันธ์กับผู้อื่น (Need for relatedness) และความต้องการมีทักษะความสามารถ (Need for competency)ซึ่งการที่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองไม่สามารถตอบสนองความต้องการทั้ง 3 ด้านนี้ได้นั้นเนื่องจาก ภาวะการเจ็บป่วย ทำให้แรงจูงใจลดลง ลักษณะของผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง ที่ขาดแรงจูงใจสามารถสังเกตได้จาก พฤติกรรมเบื้องต้นเช่น
- ผู้ป่วยไม่ยอมทำ หรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ผู้ป่วยจะต้องทำในแต่ล่ะวัน เช่น อาบน้ำ แต่งตัว เดินเล่น
- ผู้ป่วยไม่สามารถที่จะตั้งใจ หรือจดจ่อกับกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ ในระยะเวลาที่เหมาะสม มักจะเบื่อง่าย
- มีกิจกรรมทางสังคม และชุมชน ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เลือกที่จะอยู่คนเดียวเป็นส่วนมาก หรือเก็บตัวอยู่ที่บ้าน
- ปฏิเสธในการเข้าร่วมในโปรแกรมบำบัดฟื้นฟูต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ถึงประโยชน์ของการเข้าร่วมโปรแกรมการรักษา
ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีแรงจูงใจที่ดีก็จะเห็นความสำคัญต่อกระบวนการรักษา และให้ความร่วมมือในการบำบัดฟื้นฟู ซึ่งการมีแรงจูงใจที่ดีจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผลลัพธ์ในการบำบัดฟื้นฟูดีไปด้วยเช่นกันดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บำบัดและผู้ดูแลควรให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมแรงจูงใจของผู้ป่วยมากขึ้น เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือของผู้ป่วย ส่งผลที่ดีต่อการฟื้นฟูความสามารถ โดยแนวทางการสร้างเสริมแรงจูงใจ ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง สามารถทำได้ดังนี้
การตั้งเป้าหมายในการบำบัดฟื้นฟูที่ชัดเจน และสามารถทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ
การตั้งเป้าหมายที่ดีเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ป่วยเป็นอย่างมาก เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความพยายาม และเห็นความสำคัญในการบำบัดฟื้นฟูมากขึ้น และในการตั้งเป้าหมายควรจะต้องคำนึงถึงความต้องการ ความสนใจของผู้ป่วยแต่ละรายด้วยเช่นกัน สามารถทำได้จริงและไม่ยากหรือใช้เวลามากเกินไป และมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน ถึงการเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ดังนั้นผู้บำบัดและผู้ดูแลควรพูดคุย เพื่อกำหนดเป้าหมายร่วมกับผู้ป่วย โดยพิจารณาตามความเหมาะสม ลำดับความสำคัญของเป้าหมาย พูดอธิบายให้เข้าใจ และเน้นย้ำกับผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอถึงเป้าหมายนั้น แต่อย่างไรก็ดีในการฟื้นฟูไม่ควรมุ่งให้ความสนใจเฉพาะผลลัพธ์ที่ตั้งไว้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ควรจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ผู้ป่วยสามารถทำได้ในระหว่างการฟื้นฟูร่วมด้วย เพื่อให้ผู้ป่วยรับรู้ถึงความสามารถของตนเอง ที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ในระหว่างที่ฝึกตลอดเวลา ช่วยสร้างแรงจูงใจอีกทางหนึ่ง
การคงความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วย
การให้ผู้ป่วยได้พยายามทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง จะช่วยทำให้ผู้ป่วยรับรู้ถึง ความสามารถของตนเอง ผ่านกิจกรรมที่ต้องทำอยู่เป็นประจำ จะลดความรู้สึกว่าตนเป็นภาระของผู้ดูแล อีกทั้งยังช่วยสร้างแรงจูงใจในการฟื้นฟูความสามารถเพื่อให้ตนสามารถทำกิจกรรมที่ต้องการให้ดีขึ้น และจากการศึกษาวิจัยพบว่าการที่ผู้ป่วยมีความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันที่เพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้ระดับแรงจูงใจต่อการเข้ารับการฟื้นฟู เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นผู้บำบัดและผู้ดูแลควรเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยทำกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองบ่อย ๆ โดยอาจใช้การปรับประยุกต์ขั้นตอน วิธีการ หรืออุปกรณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับระดับ ความสามารถของผู้ป่วย และมีความปลอดภัยระหว่างทำกิจกรรม
ภาพที่ 1 : การกำหนดเป้าหมายในการบำบัดฟื้นฟูร่วมกันระหว่างผู้ป่วยและผู้บำบัด
ภาพที่ 2 : ให้ผู้ป่วยแปรงฟันด้วนตนเอง เพื่อคงความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน
ส่งเสริมการทำงานอดิเรก
ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองส่วนใหญ่ มักขาดโอกาสที่จะได้ทำงานอดิเรกจากข้อจำกัดอย่างหลายด้าน ดังนั้นการส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีงานอดิเรกที่ตนเองชอบ และมีความสนใจสิ่งนั้น จึงเป็นสิ่งจำเป็น และสำคัญที่จะ ช่วยทำให้ผู้ป่วยเกิดความเพลิดเพลิน ผ่อนคลายความตึงเครียด ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี การทำงานอดิเรกที่ชอบช่วยก่อให้เกิดแรงจูงใจภายในตนเองของผู้ป่วย ทำให้ตนสามารถมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมที่ตนชอบได้ ดังนั้นผู้บำบัด และผู้ดูแลควรจะให้ความสำคัญ ในการวางแผนการฟื้นฟู ที่ช่วยส่งเสริมความสามารถให้ผู้ป่วย ทำงานอดิเรกที่ตนเองต้องการได้
ส่งเสริมกิจกรรมทางสังคม
ความบกพร่องในด้านการเคลื่อนไหว หรือความบกพร่องด้านการสื่อสาร จะก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นในชุมชน หรือในสังคม ซึ่งผู้ป่วยยังคงต้องการทำกิจกรรมเหล่านี้ เช่น การเล่นกับลูกหลาน การได้พบปะพูดคุยกับเพื่อนในอดีต จากการศึกษาวิจัยพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับการส่งเสริมการทำกิจกรรมทางสังคม เช่น การทำกิจกรรมกลุ่มร่วมกับผู้ป่วยคนอื่น ๆ จะส่งผลที่ดีต่อการบำบัดฟื้นฟูความสามารถ ดังนั้นผู้บำบัดและผู้ดูแลควรเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้ทำกิจกรรมทางสังคม นอกจากนี้การเปิดโอกาสให้ทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ยังทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดูแลตนเอง และการส่งมอบกำลังใจระหว่างผู้ป่วยด้วยกันเองอีกด้วย
สรุป
ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมักประสบกับการเสื่อมถอยในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านร่างกาย การรับรู้ และการสื่อสาร ทำให้การทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันลดลง นำไปสู่ความรู้สึกท้อแท้ ขาดแรงจูงใจ และอาจเกิดภาวะซึมเศร้าซึ่งพบได้สูงในช่วง 1 เดือนแรกหลังการป่วย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่อาจประสบภาวะทางร่างกายและจิตใจที่เสื่อมลงอย่างชัดเจน แรงจูงใจจึงมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วย เนื่องจากช่วยกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในกระบวนการบำบัดและเห็นความสำคัญของการฟื้นฟู ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลลัพธ์การรักษา
ทฤษฎีการควบคุมด้วยตนเอง (Self-determination theory) ได้กล่าวถึงปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นแรงจูงใจในผู้ป่วย ได้แก่ ความต้องการในการตัดสินใจด้วยตนเอง ความต้องการความสัมพันธ์กับผู้อื่น และความต้องการมีความสามารถ ความต้องการเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่ผู้ป่วยควรได้รับการตอบสนอง แต่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอาจไม่สามารถทำได้ด้วยตนเองเนื่องจากภาวะเจ็บป่วย แนวทางเสริมสร้างแรงจูงใจจึงมีดังนี้
การตั้งเป้าหมายในการบำบัดที่ชัดเจนและทำสำเร็จได้ การตั้งเป้าหมายร่วมกับผู้ป่วยโดยคำนึงถึงความต้องการและความสนใจเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นแรงจูงใจ เป้าหมายควรมีความท้าทายแต่เป็นไปได้และเหมาะสมกับระดับความสามารถ เช่น การฝึกเดินในระยะที่กำหนด การทำกิจวัตรส่วนตัว เป็นต้น การตั้งเป้าหมายแบบนี้ช่วยให้ผู้ป่วยเห็นความก้าวหน้าของตนและรู้สึกถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้น
การคงความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน การให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมพื้นฐาน เช่น แปรงฟัน ล้างหน้า ช่วยสร้างความรู้สึกว่าตนยังมีคุณค่าและลดความรู้สึกว่าเป็นภาระต่อผู้ดูแล นอกจากนี้ การทำกิจวัตรยังช่วยส่งเสริมแรงจูงใจในการฟื้นฟูและทำให้ผู้ป่วยมีความสามารถในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ส่งเสริมการทำงานอดิเรก การทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเพิ่มแรงจูงใจ ผู้บำบัดและผู้ดูแลควรหากิจกรรมที่เหมาะสมกับความสนใจของผู้ป่วย เช่น การปลูกต้นไม้ การวาดภาพ การเย็บปักถักร้อย หรือการฟังเพลง เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย และมีความสุขในการทำกิจกรรมที่ตนสนใจ
ส่งเสริมกิจกรรมทางสังคม ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอาจขาดโอกาสในการทำกิจกรรมทางสังคมเนื่องจากข้อจำกัดทางร่างกายและการสื่อสาร ผู้บำบัดและผู้ดูแลควรเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้เข้าร่วมกิจกรรมกับผู้อื่น เช่น การพบปะกับเพื่อนหรือญาติ หรือการทำกิจกรรมกลุ่มกับผู้ป่วยคนอื่น ๆ เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในสังคม อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และกำลังใจซึ่งกันและกัน
การเสริมสร้างแรงจูงใจเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการบำบัดฟื้นฟูอย่างมีความสุข แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตและร่างกาย ช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็ก บริการรับดูแล และ การรักษา การบำบัด การพยาบาลและการฟื้นฟูร่างกาย ผู้สูงอายุและผู้ป่วย โดยทีมสหวิชาชีพ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลและนักกายภาพบำบัด ผ่านการรับรองมาตรฐานของกระทรวงสาธารสุข
เรารับอาสาดูแลคนที่ท่านรัก เพื่อแบ่งเบาภาระของท่าน โดยทีมงานมืออาชีพมากด้วยประสบการณ์ จากทีมงานสหวิชาชีพผู้ชำนาญการ และเราพร้อมให้บริการ ที่พักแก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ทั้งประจำและไป – กลับ รายวันและรายเดือน เช่น ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยเรื้อรัง ติดเตียง หรือต้องการพักฟื้น เน้นการฟื้นฟูและการบำบัด
Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140
Tel : 099 914 1595 ( คุณแพรว )
Line : @smilehospital24
E-mail : [email protected]
Tiktok : @smilepthospital.com
YouTube : @user-je7ou7rm9b
FaceTBook : โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ (Smile Physical Therapy Hospital)