เลขที่ใบอนุญาต 10205000165
โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ Smile Physical Therapy Hospital ให้บริการดูแลฟื้นฟู กายภาพบำบัด ผู้ป่วยทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ด้วยทีมงานคุณภาพ
ติดต่อ กายภาพบำบัด
099 914 1595 ( คุณแพรว )
เลขที่ใบอนุญาต 10205000165
ติดต่อ กายภาพบำบัด
099 914 1595 ( คุณแพรว )

รู้ก่อนเดิน ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

ปัญหาการเดินใน ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

ปัญหาด้านการเดิน เป็นหนึ่งในปัญหาหลัก ที่พบได้มากใน ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเกิดจากปัจจัยหลัก 2 ประการ ประการแรก คือ มีปัญหาในด้านการควบคุมการเคลื่อนไหว และประการที่สอง คือ  มีปัญหาด้านการรักษาสมดุลของร่างกาย โดยทั้งสองปัจจัยจะส่งผลต่อการเดิน คือ มีการควบคุมความเร็ว และระยะก้าวได้ไม่มั่นคง ส่งผลให้เกิดการเดินเซไม่มั่นคง เสี่ยงต่อการหกล้มสูง มักพบว่ามีการลงน้ำหนัก ที่ขาข้างอ่อนแรงได้น้อยกว่าขาข้างปกติ มีการเหวี่ยงขาไปด้านข้างขณะเดิน เป็นต้น

ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเดิน มีอะไรบ้าง ?

ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

  1. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การเดินจำเป็นต้องมีการทำงานร่วมกัน ของกล้ามเนื้อหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อลำตัว กล้ามเนื้อแขน และกล้ามเนื้อขา โดยกล้ามเนื้อลำตัวมีบทบาทสำคัญ ในการช่วยสร้างความมั่นคง ให้กับร่างกายขณะทำการเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อแขนจะทำงานในทิศตรงข้าม กับการเคลื่อนไหวของขา มีบทบาทเพื่อช่วยเพิ่มความมั่นคง และควบคุมการทรงท่าขณะเดิน ส่วนสุดท้ายและเป็นส่วนที่มีความสำคัญ ในการเดินอย่างมาก คือ กล้ามเนื้อขา เนื่องจากการเดินจะมีช่วงที่ขา ข้างอ่อนแรงเหยียบพื้น ซึ่งในช่วงนี้กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่เหยียด และกางข้อสะโพก เหยียดข้อเข่า และกล้ามเนื้อที่ช่วยควบคุมความมั่นคง ของข้อเข่านั้นจะต้องมีการทำงานร่วมกัน เพื่อให้สามารถยืนได้อย่างมั่นคง เข่าไม่ทรุด หรือไม่แอ่นจนเกินไป และการทำงานของกล้ามเนื้อ ที่ทำหน้าที่ในการถีบปลายเท้า เพื่อช่วยส่งแรงในการก้าว กล้ามเนื้องอเข่า งอสะโพก และกล้ามเนื้อกระดกข้อเท้าขึ้น เพื่อช่วยให้ยกขาลอยพ้นพื้น ดังนั้น กล้ามเนื้อต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น จะต้องมีการทำงานที่ประสานสัมพันธ์กัน เพื่อให้การเดินเป็นไปอย่างมั่นคง แต่สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง การเคลื่อนไหว จะมีการสูญเสีย หรือลดลงจากการอ่อนแรง ของกล้ามเนื้อต่าง ๆ ดังนั้น การฝึกกำลังของกล้ามเนื้อ ให้มีความแข็งแรงเพียงพอสำหรับการเดิน จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ

  2. การทรงตัว เป็นหนึ่งในส่วนที่มีความสำคัญ เนื่องจากการที่เราจะเดินได้ดี จะต้องมีการทรงตัวที่ดีก่อน กล่าวคือจะต้องมีความสามารถในการควบคุมร่างกาย ให้จุดศูนย์กลางมวลของร่างกายสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหว เช่น หากเราก้าวไปข้างหน้าจุดศูนย์กลางมวล จะต้องย้ายไปข้างหน้า ให้น้ำหนักตกระหว่างขาทั้งสองข้าง เป็นต้นทั้งนี้ก็เพื่อรักษาความมั่นคงและป้องกันการล้ม ดังนั้น หากร่างกายมีการควบคุมการทรงตัวที่ดี ก็จะสามารถเดินได้ดีด้วยเช่นกัน

  3. อาการเกร็ง และการจำกัดการเคลื่อนไหวของข้อต่อ อาการเกร็งเป็นอาการที่พบได้บ่อย ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เป็นอาการที่จะพบความตึงตัวของกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น และไม่สามารถควบคุมได้ โดยส่วนมากอาการเกร็งในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจะพบอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ กลุ่มงอของแขน และอาการเกร็งกล้ามเนื้อกลุ่มเหยียดของขา ซึ่งอาการเกร็งเหล่านี้ นั้นจะส่งผลต่อการเดินได้ เนื่องจากเมื่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง มีอาการเกร็งเหยียดของขา โดยเฉพาะกล้ามเนื้อกลุ่มเหยียดเท้า จะทำให้กระดกข้อเท้าขึ้นได้ลำบาก เมื่อทำการเดินผู้ป่วย จะพบปัญหาในการยก ให้ปลายเท้าลอยพ้นพื้น ดังนั้นผู้ป่วยจะเริ่มมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดิน เพื่อให้สามารถก้าวเดินได้ ที่พบมากจะเป็นการเดินแบบ เหวี่ยงขาไปด้านข้าง (Circumduction gait) และการเดินแบบยักสะโพกขึ้น (Hip hiking) นอกจากนี้การไม่ได้มีการเคลื่อนไหว ของข้อต่อเป็นระยะเวลานาน จะส่งเสริมทำให้เกิดอาการตึงของกล้ามเนื้อ และเกิดการยึดติดของข้อต่อได้ ส่งผลทำให้การเดินเกิดความไม่มั่นคง หรือเดินในรูปแบบที่ผิดปกติไป ดังนั้นการลดอาการเกร็ง รวมถึงการลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อ ก็จะทำให้สามารถเดินดีขึ้นได้

  4. การรับรู้การเคลื่อนไหวของข้อต่อ (Proprioceptive sense) การรับรู้การเคลื่อนไหวของข้อต่อ หรือ Proprioceptive sense คือ การรับรู้ตำแหน่งและการเคลื่อนไหวของร่างกาย โดยจะทำงานช่วยประสานสัมพันธ์ การเคลื่อนไหวของร่างกายระหว่าง ศีรษะ ลำตัว แขน และขา ให้มีการทรงตัวที่เหมาะสม ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ที่มีปัญหาการรับรู้การเคลื่อนไหว ของข้อต่อ จะส่งผลต่อการทรงตัวในการยืน หรือเดินได้ ในการฝึกกระตุ้นการรับรู้การเคลื่อนไหว ของข้อต่อสามารถทำได้โดย การฝึกลงน้ำหนักบริเวณข้อต่อนั้น ๆ โดยเฉพาะการฝึกบนพื้นที่มีความมั่นคงน้อย เช่น บนเบาะ หรือบนพื้นนิ่ม จะช่วยกระตุ้นการทำงานของการรับความรู้สึกได้ดีขึ้น

  5. การลงน้ำหนัก ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง มักพบว่า มีการลงน้ำหนักที่ไม่สมมาตรกัน โดยจะลงน้ำหนักข้างอ่อนแรง ได้น้อยกว่าข้างปกติ สังเกตได้จากการก้าวขาข้างแข็งแรง ขณะที่ขาข้างอ่อนแรงรับน้ำหนัก จะพบว่ามีการก้าวขาเร็วกว่าปกติ หรือมีการเอียงตัวไปยังข้างที่รับน้ำหนักเพื่อช่วยในการถ่ายน้ำหนัก ส่งผลทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงขณะเดิน มีการทรงตัวขณะเดินลดลง และเสี่ยงต่อการล้มได้ ดังนั้น ถ้าหากสามารถลงน้ำหนัก ที่ขาทั้งสองข้างได้ดี และสอดคล้องกัน ก็จะทำให้เกิดความมั่นคง ขณะยืนด้วยขาข้างเดียงมากขึ้น

  6. ด้านจิตใจ ผู้ป่วยที่มีความมุ่งมั่นในการกลับไปเดิน จะมีแรงจูงใจในการฟื้นฟู สมรรถภาพ ทำให้มีผลต่อการฟื้นฟู ที่ดี รวมถึงการสนับสนุนของ ครอบครัว และสังคมมีผลต่อสภาพจิตใจ ของผู้ป่วย จิตใจของผู้ป่วยที่ดี จึงส่งผลให้ความสามารถ ในการเดินดีตามไปด้วย

การเดิน แบ่งออกเป็น 2 ช่วงหลัก ๆ คือ

  1. ช่วงรับน้ำหนัก หรือช่วงที่เท้าเหยียบพื้น ในช่วงนี้จะคิดเป็นประมาณร้อยละ 60 ของวงจรการเดินหนึ่งรอบ แบ่งเป็นช่วงรับน้ำหนักด้วยขาสองข้าง ประมาณร้อยละ 40 และช่วงรับน้ำหนักด้วยขาข้างเดียว ประมาณร้อยละ 20 ในช่วงนี้จำเป็นต้องใช้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ในกลุ่มเหยียดของขา ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อกาง และเหยียดข้อสะโพก กล้ามเนื้อเหยียดข้อเข่า และกล้ามเนื้อกลุ่มที่ให้ความมั่นคงกับข้อเข่า
  2. ช่วงก้าว หรือช่วงที่ฝ่าเท้าลอยพ้นพื้น คือ ช่วงที่เท้าข้างนั้นยกขึ้นลอยพ้นพื้น ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 40 ของวงจรการเดินหนึ่งรอบ ในช่วงนี้จะเป็นการใช้ความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ ในการถีบปลายเท้าลงให้เท้ายกขึ้น และตามมาด้วยการทำงานของ กล้ามเนื้อในกลุ่มงอของขา ได้แก่ กล้ามเนื้องอข้อสะโพก กล้ามเนื้องอข้อเข่า และกล้ามเนื้อในการกระดกข้อเท้าขึ้น เพื่อให้ขาและเท้ายกพ้นพื้น

โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็ก บริการรับดูแล และ การรักษา การบำบัด การพยาบาลและการฟื้นฟูร่างกาย ผู้สูงอายุและผู้ป่วย โดยทีมสหวิชาชีพ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล และนักกายภาพบำบัด ผ่านการรับรองมาตรฐาน ของกระทรวงสาธารสุข

เรารับอาสาดูแลคนที่ท่านรัก เพื่อแบ่งเบาภาระของท่าน โดยทีมงานมืออาชีพ มากด้วยประสบการณ์จาก ทีมงานสหวิชาชีพผู้ชำนาญการ และเราพร้อมให้บริการ ที่พักแก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ทั้งประจำและไป – กลับ รายวันและรายเดือน เช่น ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยเรื้อรัง ติดเตียง หรือต้องการพักฟื้น เน้นการฟื้นฟูและการบำบัด 

ติดต่อเรา : โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์

โทร : 082 978 5966 (คุณหมอวุฒิ) 099 914 1595  (คุณแพรว)  064 653 6993 (เบอร์กลาง)

เวลาเปิดให้บริการ   08.00 น. – 18.00 น.

ที่ตั้ง ตั้งอยู่ที่ 87 หมู่ 9 ถนน ทางหลวงชนบท นบ. 1009 (กม.8) ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ. นนทบุรี 11140

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top
กายภาพบำบัด

099 914 1595 คุณแพรว