
เรามาปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้าน
เพื่อป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุกันเถอะ
ในวัยสูงอายุ เป็นวัยที่มีการเสื่อมถอยของการทำงานของร่างกายอย่างเห็นได้ชัด โดยอาจแสดงให้เห็นถึงความผิดปกติในด้านต่าง ๆ ที่จะสามารถพบได้บ่อยใน ผู้สูงอายุ เช่น ความผิดปกติของการมองเห็น ความผิดปกติของการได้ยิน ทางเดินหายใจและ การเสื่อมของกระดูก และภาวะสมองเสื่อม รวมไปถึง โรคและภาวะอื่น ๆ
ที่จะสามารถเกิดขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้น เช่น เบาหวาน หรือความดันโลหิต เป็นต้น ซึ่งปัญหาหรือความปกติต่าง ๆ จะเกิดขึ้นได้ในหลายด้านพร้อมกันได้ และความเสี่ยงต่อการหกล้ม เป็นอีกหนึ่งปัญหา ที่พบได้บ่อยมากที่สุดในสูงอายุ โดยข้อมูลจากกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในปี พ.ศ. 2563 ว่ามีอัตราการเสียชีวิตจากการหกล้มในผู้สูงอายุมากถึง คนต่อผู้สูงอายุ 100,000 คน ซึ่งนอกจากสาเหตุก็มาจากความเสื่อมของระบบการทำงานของร่างกายด้วยแล้ว และปัญหาจากสิ่งแวดล้อมที่ผู้สูงอายุอาศัยก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการหกล้มได้ โดยร้อยละ 85 ของผู้สูงอายุที่หกล้มและได้รับบาดเจ็บ โดยมักเกิดขึ้นภายในบ้าน และในบริเวณรอบ ๆ ของตัวบ้าน ดังนั้น เราควรจะปรับสภาพแวดล้อมบริเวณบ้านให้เหมาะสม จะสามารถช่วยลดปัจจัยในการหกล้มในผู้สูงอายุได้นั่นเองค่ะ
สิ่งแวดล้อมในบริเวณบ้านที่มี "ผู้สูงอายุ"
โดยสิ่งแวดล้อมในบริเวณบ้าน ก็มีผลต่อความสามารถในการทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือ การดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้สูงอายุมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ ทำกิจกรรมอยู่บริเวณบ้าน หากสิ่งแวดล้อมบริเวณบ้านไม่เอื้ออำนวย ก็จะส่งผลให้ ผู้สูงอายุ มีความยากลำบากในการทำกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น รวมทั้งส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการหกล้ม และ เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ ซึ่งจากแบบประเมินการป้องกันการหกล้ม ภายในบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ที่จัดทำขึ้นโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ประเทศสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention: CDC) ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่ไม่ปลอดภัย ที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการหกล้ม ในผู้สูงอายุ มีดังนี้
- มีสิ่งกีดขวางบริเวณทางเดิน และ ขวางบันไดภายในบ้าน และไม่มีการจัดวางสิ่งของ และเฟอร์นิเจอร์อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในบ้าน ก็อาจส่งผลให้ผู้สูงอายุมีการเดินสะดุดได้ อาจเดินชน จึงมีความเสี่ยงต่อการหกล้มได้ง่ายมาก ๆ
- มีพื้นที่ขรุขระ เนื่องจากผู้สูงอายุมีสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยจะแข็งแรง ดังนั้นการทรงตัวบนพื้นที่ ที่ไม่มั่นคง ก็อาจทำได้ยากขึ้น เช่น พื้นของบ้าน บันไดชำรุด หรือพื้นที่บริเวณสวนที่ไม่เรียบ มีความขรุขระ
- มีแสงสว่างไม่เพียงพอ เนื่องจากความสามารถในการมองเห็นของผู้สูงอายุลดลงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ดังนั้นเมื่อทางเดินภายในบ้าน หรือบันไดมีแสงที่ไม่เพียงพอ จะทำให้มองเห็นไม่ชัด ผู้สูงอายุ อาจจะหกล้มจากการเดินสะดุด หรือเดินชนสิ่งของกีดขวางได้
- ทางต่างระดับ ที่ไม่มีราวจับบริเวณบันได หรือห้องน้ำ รวมไปถึง ราวจับชำรุดเสียหาย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมักมีความลื่นอย่างมาก และลาดชัน อาจจะส่งผลต่อความมั่นคง ในการทรงท่าของผู้สูงอายุ และมีความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มได้เช่นกัน
- สิ่งของต่าง ๆ ที่จำเป็นจะต้องใช้เป็นประจำ ตั้งอยู่บนที่สูง ต้องมีการเขย่ง และเอื้อมหยิบ ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการหกล้ม ที่เป็นผลมาจากการทรงตัวของผู้สูงอายุที่ไม่มั่นคงได้
- พื้นมีความลื่นอย่างมาก บ้างมีน้ำขัง หรือมีตะไคร่น้ำ อาจจะทำให้ผู้สูงอายุลื่นได้ เช่น บริเวณห้องน้ำ และห้องครัว หรือพื้นที่นอกบ้านที่ไม่มีที่กันน้ำฝน
ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม
โดยจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมดังกล่าว ก็แสดงให้เห็นถึงลักษณะของความเสี่ยงภายในบ้าน ที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้สูงอายุได้ โดยกิจวัตรประจำวันในบริเวณบ้านของผู้สูงอายุตั้งแต่ตื่นนอน จนถึงเข้านอนจะมีความเกี่ยวข้องกับห้องต่าง ๆ ของบ้าน ได้แก่ ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ รวมไปถึงทางเดินภายในบ้าน ซึ่งห้องต่าง ๆ เหล่านี้ สามารถปรับสิ่งแวดล้อมให้มีความปลอดภัย และเหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุได้ โดยข้อมูลจากกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้คำแนะนำในการปรับสภาพแวดล้อมบริเวณบ้าน เพื่อป้องกันการหกล้มสำหรับผู้สูงอายุ ดังนี้
1. การจัดสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ภายในและรอบตัวบ้าน
ภายในบ้านควรที่จะมีแสงสว่างที่เพียงพอ เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อม ได้อย่างชัดเจน ควรจะจัดวางสิ่งของภายในบ้านให้เป็นระเบียบ เรียบร้อย ไม่ให้กีดขวางทางเดิน โดยพื้นบริเวณทางเดินควรเป็นพื้นเรียบ ไม่ขรุขระ ไม่ลื่น ไม่มีธรณีประตู บริเวณบันไดทางต่างระดับก็ควรจะมีราวจับเพื่อให้ผู้สูงอายุใช้พยุงตัว เมื่อจำเป็นต้องเดินขึ้นหรือลงบันได เพิ่มพื้นต่างผิวสัมผัสบริเวณบันไดทำให้ผู้สูงอายุทราบถึงขอบบันได และหลีกเลี่ยงการใช้พรมที่เลื่อนหรือไม่มั่นคง
2. ห้องนอน
ในส่วนของเตียงนอนสำหรับผู้สูงอายุ ควรจะมีความสูงจากพื้นอยู่ในระดับข้อพับเข่า เพื่อให้ง่ายต่อการลุกขึ้นยืนจากท่านั่ง สวิตช์ไฟควรอยู่ในระยะใกล้เตียงนอนที่สามารถเอื้อมถึง และอยู่ใกล้กับประตูทางเข้า – ออก และที่สำคัญในห้องนอนควรจะมีการระบายอากาศที่ดี ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมถึงควรมีแสงสว่างที่เพียงพอทั้งในช่วงเวลากลางวัน และกลางคืนอีกด้วย
3. ห้องน้ำ
พื้นบริเวณห้องน้ำควรที่จะมีพื้นที่เรียบเสมอกัน ไม่ลื่น ควรมีวัสดุกันลื่นในบริเวณพื้นที่เปียก และมีเก้าอี้สำหรับนั่งอาบน้ำ มีการแยกส่วนแห้งและเปียกอย่างชัดเจน และที่สำคัญ ควรมีราวจับในห้องน้ำเพื่อให้ผู้สูงอายุใช้พยุงตัวเดินภายในห้องน้ำ ควรใช้โถส้วมชนิดนั่งราบหรือนั่งห้อยขามีความสูงที่เหมาะสม และมีราวจับใกล้โถส้วมกรณีลุกขึ้นยืน และในส่วนของก๊อกน้ำ และมือจับประตูควรเป็นแบบก้านโยก รวมถึงประตูควรเป็นแบบเปิดออกหรือบานเลื่อนแบบไม่มีธรณีประตู ควรที่จะสามารถเปิดออกได้ ทั้งภายนอกและและภายในสำหรับช่วยเหลือผู้สูงอายุในกรณีที่ฉุกเฉิน
4. ห้องครัว
ภายในห้องครัว ควรจะมีการจัดวางสิ่ง ของเครื่องใช้ต่าง ๆ ให้ง่ายต่อการหยิบใช้งาน ไม่ควรวางไว้ที่สูง หรือหาได้ยาก เพราะอาจทำให้เกิดการหกล้มขณะเขย่ง หรือเอื้อมหยิบได้ นอกจากนี้พื้นบริเวณห้องครัวควรเป็นพื้นแห้ง ไม่เปียกน้ำ หากมีน้ำหกควรจะรีบเช็ดทันทีเพื่อป้องกันการลื่นล้ม และควรมีแสงสว่างที่มากเพียงพอทั้งแสงจากธรรมชาติ และแสงจากหลอดไฟฟ้า เพื่อมองสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน
สรุป
ในการหกล้มจะส่งผลโดยตรง ต่อระบบโครงสร้างของร่างกายของผู้สูงอายุ อาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บ เป็นแผล ฟกช้ำ ปวดเมื่อย และอาจทำให้เกิดกระดูกร้าวหรือหักได้ จะส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เพิ่มมากยิ่งขึ้น หรืออาจรุนแรงกว่าถึงขั้นเสียชีวิตได้ นอกจากนี้การล้มยังมีผลกระทบต่อจิตใจ ทำให้ผู้สูงอายุกลัวการหกล้ม จะส่งผลให้ไม่กล้าเคลื่อนไหวตัวไปในที่ต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้ความสามารถ ในการเคลื่อนไหวลดน้อยลงเป็นอย่างมาก และมีข้อจำกัดในการทำกิจกรรมต่าง ๆในชีวิตประจำวัน ดังนั้นการปรับสภาพบ้านหรือสถานที่ต่าง ๆ ภายในบ้านหรือนอกบ้าน ให้เหมาะสมจึงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงจากการหกล้มในผู้สูงอายุได้ และนอกจากนี้ควรมีการการส่งเสริมความแข็งแรงของร่างกาย เช่น การทรงตัว ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อควบคู่กันไปด้วย ช่วยให้ผู้สูงอายุมีร่างกายที่แข็งแรง สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างมั่นคง ส่งผลให้ผู้สูงอายุสามารถทำกิจกรรม และการดำเนินชีวิตภายในบ้านได้อย่างปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้
โรงพยาบาลกายภาพบำบัด สไมล์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็ก บริการรับดูแล และ การรักษา การบำบัด การพยาบาลและการฟื้นฟูร่างกาย ผู้สูงอายุและผู้ป่วย โดยทีมสหวิชาชีพ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลและนักกายภาพบำบัด ผ่านการรับรองมาตรฐานของกระทรวงสาธารสุข
เรารับอาสาดูแลคนที่ท่านรัก เพื่อแบ่งเบาภาระของท่าน โดยทีมงานมืออาชีพมากด้วยประสบการณ์ จากทีมงานสหวิชาชีพผู้ชำนาญการ และเราพร้อมให้บริการ ที่พักแก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ทั้งประจำและไป – กลับ รายวันและรายเดือน เช่น ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยเรื้อรัง ติดเตียง หรือต้องการพักฟื้น เน้นการฟื้นฟูและการบำบัด
Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140
Tel : 099 914 1595 ( คุณแพรว )
Line : @smilehospital24
E-mail : [email protected]
Tiktok : @smilepthospital.com
YouTube : @user-je7ou7rm9b
FaceTBook : โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ (Smile Physical Therapy Hospital)