
โรคสมองเสื่อมในคนอายุน้อย
ภาวะสมองเสื่อม (Dementia) คือ ความเสื่อมประสิทธิภาพของสมอง ซึ่งทำหน้าที่ เป็นศูนย์กลางควบคุมการสั่งการของร่างกาย มีหน้าที่จดจำ ตัดสินใจ ส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางความคิด ความจำ การใช้เหตุผล และการสื่อสาร รวมถึงบุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง หรือผิดปกติได้ ในบางกรณีอาจมีอารมณ์แปรปรวน เครียด ซึมเศร้า รู้สึกแปลกแยก ต่อต้าน และแยกตัวออกจากสังคม โดยปกติมักเกิดในคนที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป เนื่องจากความเสื่อมลงของร่างกายตามธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตามภาวะสมองเสื่อมก็สามารถเกิดในผู้อายุน้อยตั้งแต่ 30-65 ปีได้ ซึ่งพบประมาณ 8% ของผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อมทั้งหมด ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน ทำให้มักละเลยไม่ได้สังเกตความผิดปกติ อีกทั้งวิถีชีวิตการทำงาน ที่เจอกับภาวะเครียดได้ง่าย จึงมักถูกมองว่าเป็นเพียงเรื่องของความเครียด หรือภาวะซึมเศร้าจากการทำงาน เลยไม่ได้สังเกตความผิดปกติ ละเลยคิดว่าไม่อันตราย จนกลายเป็นภัยเงียบที่ไม่รู้ตัว หากไม่ได้รับรู้ถึงการรักษาหรือวิธีปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมของตนเองและครอบครัว อาจทำให้การดำเนินโรคไปในทางแย่ลงอย่างรวดเร็วได้ ดังนั้น หากผู้ป่วยมีความรู้ความเข้าใจในโรคสมองเสื่อมก่อนวัยนี้ จะช่วยให้ตระหนักถึงโรคที่อาจเกิดขึ้น รู้จักป้องกัน และไม่เสียโอกาสในการเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง
สาเหตุที่ทำให้โรคสมองเสื่อมก่อนวัย "ภาวะสมองเสื่อม"
สาเหตุ ภาวะสมองเสื่อม
- คนในครอบครัวมีประวัติว่าเป็นภาวะสมองเสื่อมตอนอายุน้อย ๆ
- สมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมอง (Vascular cognitive impairment) เช่น เส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งมักพบในผู้ป่วยอายุน้อยที่มีภาวะเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ทำให้เส้นเลือดฝอยในสมองตีบ ส่งผลให้เซลล์สมองตาย
- ฮอร์โมนผิดปกติ โดยเฉพาะฮอร์โมนไทรอยด์ (Thyroid hormone) ที่มีระดับต่ำกว่าปกติ
- ภาวะร่างกายขาดวิตามินบี12 ซึ่งหากขาดเป็นเวลานานอาจส่งผลให้เซลล์สมองเสื่อมได้
- จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ ซึ่งแอลกอฮอล์จะไปยับยั้งการดูดซึมของวิตามินบี12 ส่วนบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงของภาวะหลอดเลือดสมองตีบ ทั้งนี้การดื่มแอลกอฮอล์มาเป็นระยะเวลานานหรือดื่มในปริมาณมากอาจส่งผลให้ไปทำลายสมองส่วนต่าง ๆ ได้
- จากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อในสมอง ไม่ว่าจะเป็นเอชไอวี ซิฟิลิส หรือเชื้อไวรัสอื่น ๆ และการได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือเนื้องอกสมอง เป็นต้น
อาการของโรคสมองเสื่อมก่อนวัย
โรคสมองเสื่อมก่อนวัย จะมีอาการเหมือนกับผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ตามวัยโดยทั่วไป ซึ่งอาการเหล่านั้น ได้แก่
- มักจะมีอาการที่สูญเสียความจำ ในการรับรู้ และลืมเรื่องง่าย ๆ อย่างเช่น วัน เดือน ปี สถานที่ ที่พึ่งไป หรือสิ่งที่เพิ่งทำ
- มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปโดยจะค่อย ๆ เป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น พูดจับใจความไม่ได้ พูดติด ๆ ขัด ๆ พูดเรื่องซ้ำ ๆ หรือนึกคำพูดไม่ออก
- มีการตัดสินใจถดถอย ตัดสินใจได้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ควรเป็น หรือใช้เวลานานกว่าปกติในการตัดสินใจ
- มัประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง ไม่มีสมาธิในการจดจ่อกับการทำงาน ย้ำคิด ย้ำทำ
ซึ่งอาการของโรคสมองเสื่อมก่อนวัยนี้ ต้องแยกออกจากภาวะอื่นด้วย เช่น ภาวะซึมเศร้า ภาวะเครียด โรคทางจิตเวชอื่น ๆ โรคหลอดเลือดหรือเนื้องอกในสมองและภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ เป็นต้น
การตรวจประเมินเพื่อแยกโรค
- การซักประวัติ ได้แก่ การถามถึงอาการและอาการแสดงทางคลินิก ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่สังเกตุเห็น ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกนิสัยที่เปลี่ยนแปลงไป อารมณ์ กิจวัตรประจำวัน วิถีชีวิตก่อนและหลังเป็นโรค ประวัติการใช้ยา ความเครียด โรคประจำตัว โรคทางจิตเวชหรือโรคทางสมองเดิม โดยข้อมูลเหล่านี้ควรสอบถามจากทั้งตัวผู้ป่วยเอง และบุคคลรอบข่างร่วมด้วย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้น เนื่องจากคนไข้มักไม่ทราบว่าตนเองมีความผิดปกติอย่างไร
- การตรวจทั่วไป เช่น การตรวจประเมินทางระบบประสาท (neurological examination) การประเมินทางจิตประสาท (neurocognitive assessment) โดยแบบประเมินที่พบได้บ่อย เช่น แบบประเมิน Montreal Cognitive Assessment (MoCA), แบบประเมิน Mini-Mental state Examination (MMSE) และแบบประเมิน Thai Mental State Examination (TMSE) อย่างไรก็ตาม แบบทดสอบสภาพสมองเบื้องต้นนี้ อาจไม่สามารถคัดกรองวินิจฉัยแยกโรคในกลุ่มบุคคลวัยทำงานได้อย่างชัดเจนเหมือนกับกลุ่มผู้สูงอายุทั่วไป
- การตรวจเพิ่มเติม ได้แก่ การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เพื่อดูการฝ่อของสมอง การตรวจน้ำไขสันหลัง หรือ Cerebrospinal fluid (CSF) examination และการตรวจอื่น ๆ เช่น ตรวจทางพันธุกรรม (genetic testing), ตรวจโรคทางเมตาบอลิก เช่น ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน, ตรวจการทำงานของเอนไซม์ในเม็ดเลือดขาว และการตรวจชิ้นเนื้อ เป็นต้น
วิธีป้องกันการภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้เซลล์สมองเสื่อมเร็วขึ้น
- ระมัดระวังเรื่องการเกิดอุบัติเหตุ สมองถูกกระแทก เช่น การหกล้ม
- ลดความเครียดและระวังภาวะซึมเศร้า ซึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดภาวะสมองเสื่อม โดยอาจหากิจกรรมต่าง ๆ ทำเพื่อคลายเครียด เช่น การนั่งสมาธิ ฟังเพลง ปลูกต้นไม้ หรือหางานอดิเรกอื่น ๆ ที่มีความสนใจ
- ลดการรับประทานอาหารจำพวกไขมันมาก โดยให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เพราะอาหารที่มีไขมัน จะไปอุดกั้นผนังหลอดเลือด ทำให้แรงดันสูงขึ้น หรืออาจเกิดเป็นก้อนเลือดหลุดไปอุดตันเส้นเลือดในสมองได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
- นอนหลับอย่างเพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง
- ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น ครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3 – 5 ครั้ง
- หมั่นคอยตรวจสุขภาพประจำปี เป็นประจำ โดยหากเป็นคนมีโรคประจำตัว ต้องติดตามการรักษา และกินยาอย่างสม่ำเสมอ เช่น ควบคุมความดันโลหิตไม่ให้สูงเกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอท, รักษาระดับไขมันและน้ำตาลในเลือด เป็นต้น
โรงพยาบาลกายภาพบำบัด สไมล์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็ก บริการรับดูแล และ การรักษา การบำบัด การพยาบาลและการฟื้นฟูร่างกาย ผู้สูงอายุและผู้ป่วย โดยทีมสหวิชาชีพ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลและนักกายภาพบำบัด ผ่านการรับรองมาตรฐานของกระทรวงสาธารสุข
เรารับอาสาดูแลคนที่ท่านรัก เพื่อแบ่งเบาภาระของท่าน โดยทีมงานมืออาชีพมากด้วยประสบการณ์ จากทีมงานสหวิชาชีพผู้ชำนาญการ และเราพร้อมให้บริการ ที่พักแก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ทั้งประจำและไป – กลับ รายวันและรายเดือน เช่น ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยเรื้อรัง ติดเตียง หรือต้องการพักฟื้น เน้นการฟื้นฟูและการบำบัด
Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140
Tel : 099 914 1595 ( คุณแพรว )
Line : @smilehospital24
E-mail : [email protected]
Tiktok : @smilepthospital.com
YouTube : @user-je7ou7rm9b
FaceTBook : โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ (Smile Physical Therapy Hospital)