เลขที่ใบอนุญาต 10205000165
โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ Smile Physical Therapy Hospital ให้บริการดูแลฟื้นฟู กายภาพบำบัด ผู้ป่วยทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ด้วยทีมงานคุณภาพ
ติดต่อ กายภาพบำบัด
099 914 1595 ( คุณแพรว )
เลขที่ใบอนุญาต 10205000165
ติดต่อ กายภาพบำบัด
099 914 1595 ( คุณแพรว )

มหัศจรรย์ของสมอง “สมองฝึกได้”

วิธีฝึกสมอง

มหัศจรรย์ของสมอง “สมองฝึกได้”

สมองของมนุษย์เป็นอวัยวะที่มีความมหัศจรรย์ เนื่องจากมีความสามารถในการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์และประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เราเผชิญในชีวิตประจำวัน โดยกระบวนการนี้เรียกว่า neural plasticity หรือความยืดหยุ่นของระบบประสาท กระบวนการนี้ทำให้สมองสามารถสร้างการเชื่อมต่อใหม่ระหว่างเซลล์ประสาท วิธีฝึกสมอง และปรับเปลี่ยนโครงสร้างของสมองให้เหมาะสมกับสิ่งที่เราเรียนรู้ และประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เราได้รับ

หนึ่งในคุณสมบัติที่น่าทึ่งของ neural plasticity คือความสามารถในการ “สร้าง” และ “ซ่อมแซม” เซลล์ประสาท โดยไม่จำเป็นต้องรอให้สมองเกิดความเสียหายก่อน สมองสามารถพัฒนาตัวเองได้ทุกเวลา ผ่านการฝึกฝนและการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ กระบวนการนี้ทำให้เราสามารถพัฒนาทักษะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ทางวิชาการ การฝึกทักษะทางกาย หรือการปรับปรุงด้านความคิดสร้างสรรค์ การที่สมองสามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นนี้ เป็นเหตุผลที่เราสามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะหรือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีฝึกสมอง Neural Plasticity ไม่ใช่เพียงการซ่อมแซมสมอง

ในอดีต มีความเชื่อว่าสมองของมนุษย์จะหยุดพัฒนาเมื่อเราเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ และเมื่อสมองเกิดความเสียหาย เช่น การบาดเจ็บหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท ความเสียหายนี้จะไม่สามารถฟื้นฟูได้อีก แต่ปัจจุบัน งานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าสมองของเรามีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้ตลอดชีวิต ไม่เพียงแค่ในภาวะที่เกิดความเสียหาย แต่ยังสามารถปรับตัวได้จากการฝึกฝนและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อีกด้วย

หนึ่งในแนวคิดสำคัญที่สนับสนุนเรื่องนี้ คือ neural plasticity ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การซ่อมแซมเมื่อสมองได้รับบาดเจ็บหรือเกิดปัญหาสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นได้ทุกวันในกระบวนการที่เราใช้สมองเพื่อคิด วิเคราะห์ เรียนรู้ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ การกระตุ้นสมองให้มีการทำงานอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมความยืดหยุ่นของสมองและพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของสมองในระยะยาว

การฝึกฝนสมองเพื่อกระตุ้น Neural Plasticity

ในปัจจุบัน งานวิจัยหลายชิ้นได้ศึกษาถึงวิธีการและกิจกรรมที่สามารถช่วยกระตุ้น neural plasticity ของสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ กิจกรรมเหล่านี้รวมถึงการออกกำลังกาย การเล่นดนตรี การเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และการฝึกสมาธิ ซึ่งล้วนเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้สมองเกิดการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทใหม่ และทำให้สมองสามารถพัฒนาทักษะในการคิดวิเคราะห์ การจำ และการปรับตัวได้ดียิ่งขึ้น

ตัวอย่างเช่น การเล่นดนตรีเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นการทำงานของสมองหลายส่วนพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นสมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ความจำ หรือความคิดสร้างสรรค์ นักดนตรีหลายคนมีการพัฒนาสมองในด้านการประสานงานระหว่างมือและสายตา การจดจำโน้ตดนตรี และการแก้ปัญหาขณะเล่นดนตรี สิ่งเหล่านี้เป็นการแสดงให้เห็นถึง neural plasticity ที่เกิดขึ้นจากการฝึกฝน

การออกกำลังกายก็มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม neural plasticity เช่นกัน งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการหลั่งของสารเคมีในสมองที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ประสาทใหม่ และเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาท การออกกำลังกายยังช่วยปรับปรุงความจำ การเรียนรู้ และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคทางสมอง เช่น โรคอัลไซเมอร์

นอกจากนี้ การฝึกสมาธิและการทำกิจกรรมที่ใช้ความคิดเชิงลึก เช่น การแก้ปัญหาหรือการคิดวิเคราะห์ ยังช่วยกระตุ้นให้สมองสร้างการเชื่อมต่อใหม่ระหว่างเซลล์ประสาท ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถจัดการกับความเครียดหรือความท้าทายที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น

ความสำคัญของ Neural Plasticity ในการพัฒนาทักษะ
และการป้องกันโรคทางสมอง

Neural plasticity ไม่ได้เพียงช่วยให้เราพัฒนาทักษะใหม่ ๆ หรือปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและฟื้นฟูสมองจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคอัลไซเมอร์หรือภาวะสมองเสื่อม การฝึกฝนสมองอย่างต่อเนื่องช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเหล่านี้ และยังช่วยฟื้นฟูสมองหลังจากได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย เช่น การเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (stroke)

ในภาพรวม neural plasticity เป็นกระบวนการที่ทำให้สมองของมนุษย์สามารถพัฒนาตัวเองได้ตลอดชีวิต โดยไม่ว่าจะผ่านการเรียนรู้ การฝึกฝน หรือการเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ สมองจะยังคงมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้เสมอ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราสามารถพัฒนาความสามารถทางสติปัญญาและสุขภาพสมองได้อย่างยั่งยืน

การเล่นวิดิโอเกมส์ หรือเล่นเกมส์

นอกจากจะได้ความสนุกสนาน และความบันเทิง รวมถึงความสนุกความสุขที่ได้เล่นแล้ว ในการศึกษาทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ (systematic review) เกี่ยวกับผลลัพธ์ของการเล่นวิดิโอเกมส์ต่อการเปลี่ยนแปลง และทักษะการรู้คิด และการตัดสินใจ (cognitive skill) และทักษะทางอารมณ์ (emotional skill) โดยพบว่า 35 งานวิจัยบ่งชี้ถึงประโยชน์ของการเล่นวิดิโอเกมส์ต่อการเพิ่มทักษะทั้งสองด้าน โดยเฉพาะในผู้ที่เริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ผลที่ได้เกิดทั้งจากเกมส์ที่วางขายทั่วไป และเกมส์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์เฉพาะ รวมไปและโปรแกรมกระตุ้นสมอง ต่างก็มีผลต่อการพัฒนาทักษะทั้งสองโดยมีรายละเอียดดังนี้

ทักษะการตัดสินใจ

  • เกิดการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ จากเกมส์ที่ไม่คุ้นเคย รวมไปถึงกระตุ้นให้สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นโดยวัดจาก speed of reaction time ที่ลดลง
  • การเกิดการพัฒนาการจดจำผ่านสายตา (visual recognition) รวมถึงการสร้างกระบวนการจดจำจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง ( spatial navigation)
  • กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ความสามารถในการเปลี่ยนทักษะจากเกมส์ที่หลากหลาย หมายถึง การกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และทักษะในการปรับเปลี่ยนได้หลากหลายตามเกมส์ที่เล่น โดยทักษะดังกล่าวมีผลกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งการจัดระบบความคิด รวมไปถึงการทำงานแบบสอดประสานกันของกล้ามเนื้อต่าง ๆ ในร่างกายอีกด้วย

ทักษะทางอารมณ์

  • สร้างความสุขโดยแสดงออกจากสีหน้าผ่านกล้ามเนื้อใบหน้า (facial expression)
  • การสร้างความสนุกและการเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงอารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งในมุมมองของการประสบความสำเร็จ และในมุมมองของความล้มเหลวจากตัวเกมส์
  • เกิดการเรียนรู้เมื่อล้มเหลวจากเกมส์และหาวิธีปรับปรุงส่วนที่ผิดพลาดเพื่อเริ่มต้นใหม่ (resilience)
  • การปรับปรุงความสามารถทางอารมณ์ที่เกี่ยวกับความวิตกกังวลที่สัมพันธ์กับงานได้

รูปแบบของเกมส์ที่แตกต่างกัน ก็ส่งผลต่อพัฒนาการสมองที่แตกต่างกัน จากการศึกษาแบบทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ ในปี ค.ศ.2019 พบว่า เกมส์ผจญภัยในรูปแบบ 3 มิติ ส่งผลในการเพิ่มความจำ โดยเฉพาะการจดจำผ่านทางการมองเห็น และการคิดเพื่อจัดการแก้ไขปัญหา (problem-solving) เกมส์รูปแบบปริศนา มีส่วนช่วยเพิ่มความสามารถในการคิดการแก้ไขปัญหา เกิดความเชื่อมโยงของกระบวนการความคิด และการจัดการภายในสมอง และการพยากรณ์เชิงพื้นที่ (spatial prediction) เกมส์ในรูปแบบจังหวะเช่น เกมส์เต้น หรือออกกำลังกาย เพิ่มการจดจำเชิงวัตถุและพื้นที่ (visuospatial memory) และความตั้งใจ (attention) เป็นต้น

วิธีฝึกสมอง
การเรียนรู้ภาษาใหม่

เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยพัฒนาสมอง และเพิ่มการเชื่อมโยงภายในสมองผ่านการจดจำ ทั้งการเรียนภาษาใหม่ เป็นภาษาที่สองหรือภาษาที่สาม ต่างล้วนเพิ่มความสามารถดังกล่าวได้ ในการทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง neural plasticity ในกลุ่มคนที่มีประสบการณ์ที่ภาษาที่สอง มีลักษณะทางกายวิภาคของการปรับตัวของสมองที่สูง และมีความยืดหยุ่นต่อการปรับเปลี่ยน เพื่อรองรับการจดจำภาษาที่แตกต่างกัน โดยเมื่อการวัดการเปลี่ยนแปลงด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (fMRI) พบว่าในกลุ่มผู้เข้าร่วมวิจัยที่เรียนและมีประสบการณ์ภาษาที่สอง มีการหนาตัวและเพิ่มปริมาตรของสมองส่วนเนื้อหา ที่เป็นที่อยู่ของเซลล์ประสาทมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าสมองส่วน white matter เป็นส่วนที่เส้นใยประสาทเซลล์ค้ำจุน มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งทั้งสองส่วนที่พัฒนาสามารถบ่งชี้ถึงความสามารถในการเรียนรู้และการจดจำที่ดีขึ้น ข้อสังเกตคือการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จะเกิดในผู้ที่เรียนและมีประสบการณ์ในภาษาที่สองในช่วงวัยเด็กมากกว่าในวัยผู้ใหญ่ และยังขึ้นกับประสบการณ์การใช้ภาษาที่สองในสถานการณ์ต่าง ๆ อีกด้วย และนอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงทางกายวิภาคยังส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของความสามารถในการรู้คิด และตัดสินใจ จะลดลงเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ

วิธีฝึกสมอง
การเล่นดนตรี

เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมหนึ่งที่มีผลช่วยกระตุ้นสมอง ให้เกิดการพัฒนาทักษะอีกหลายด้าน จากการศึกษารูปแบบทบทวนวรรณกรรมในปี 2017 กล่าวถึงการรักษาด้วยดนตรีบำบัดผู้ป่วยสมองเสื่อม พบว่ามีการพัฒนาทางทักษะหลายด้าน เช่น

  • การฟังดนตรี เพิ่มความสามารถในงานหรือกิจกรรมที่กำกับด้วยระยะ และเวลา และยังเพิ่มการรับรู้สติ เกิดความตื่นตัวมากขึ้นในผู้ป่วย
  • การร้องเพลงโดยเฉพาะคาราโอเกะ ช่วยปรับอารมณ์ให้มีความสุขมากขึ้น และสามารถลดอาการทางจิตประสาท ที่เป็นอาการที่เกิดที่ฝึกเฉพาะการพูด
  • การฟังทำนอง ช่วยในการเพิ่มความทรงจำเชิงอัตชีวประวัติ คือ ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ในชีวิตที่สามารถระลึกได้ รวมถึงยังมีส่วนช่วยลดความวิตกกังวลได้
วิธีฝึกสมอง
การนั่งสมาธิ

กลไกลของการนั่งสมาธิ ประสิทธิภาพต่อการเรียนรู้และปรับตัวของสมองได้ถูกศึกษาไว้หลายแนวความคิด รวมไปถึงผลของการนั่งสมาธิ การทดลองพบว่า การฝึกสมาธิเป็นระยะเวลาต่อเนื่องอย่างน้อย 8 สัปดาห์ ช่วยเพิ่มความหนาแน่นเชิง ปริมาณของเซลล์ในสมองในบริเวณ hippocampus ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเรียนรู้และความจำ

วิธีฝึกสมอง
การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายส่งผลในการเพิ่มศักยภาพทางกายภาพแล้วนั้น ยังส่งผลดีต่อการเพิ่มการเรียนรู้และทักษะต่าง ๆ โดยผ่านกระบวนการ neural plasticity และสมรรถภาพของการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด และยังพบว่าการออกกำลังกายมีผลต่อการกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสมอง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความสำคัญต่อการเรียนรู้และจดจำ นอกจากนี้การเพิ่มกิจกรรมทางกายภาพให้ผู้สูงอายุโดยการออกกำลังกายแบบแอโรบิก อย่างน้อย 50 นาทีต่อครั้ง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือแม้กระทั่งการออกกำลังกายที่ไม่เน้นความทนทาน เช่น การยืดเหยียด การฝึกประสานงานร่างกาย เมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือน ให้ผลลัพธ์คือ ผู้สูงอายุจดจำคำได้ดีขึ้น ลดอาการบกพร่องทางด้านการคิดและการตัดสินใจ

วิธีฝึกสมอง

โรงพยาบาลกายภาพบำบัด สไมล์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็ก บริการรับดูแล และ การรักษา การบำบัด การพยาบาลและการฟื้นฟูร่างกาย ผู้สูงอายุและผู้ป่วย โดยทีมสหวิชาชีพ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลและนักกายภาพบำบัด ผ่านการรับรองมาตรฐานของกระทรวงสาธารสุข

เรารับอาสาดูแลคนที่ท่านรัก เพื่อแบ่งเบาภาระของท่าน โดยทีมงานมืออาชีพมากด้วยประสบการณ์ จากทีมงานสหวิชาชีพผู้ชำนาญการ และเราพร้อมให้บริการ ที่พักแก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ทั้งประจำและไป – กลับ รายวันและรายเดือน เช่น ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยเรื้อรัง ติดเตียง หรือต้องการพักฟื้น เน้นการฟื้นฟูและการบำบัด

Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140

Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140

Tel : 099 914 1595 ( คุณแพรว )

Line : @smilehospital24

E-mail : [email protected]

Tiktok : @smilepthospital.com

YouTube : @user-je7ou7rm9b

FaceTBook : โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ (Smile Physical Therapy Hospital)

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top
กายภาพบำบัด

099 914 1595 คุณแพรว