มีอาการปวดหลัง ร้าวลงขา เป็นอะไรกันแน่ ?
เป็นอีกหนึ่งในปัญหาหลัก ๆ ที่พบในประชากรทั่วไป และการปวดหลัง หรือปวดสะโพกร้าวลงขา อาจะเป็นอาการที่ใครหลาย ๆ คนเคยประสบปัญหา และอาจคิดกันไปมากมายว่ามันรุนแรงมากหรือไม่ และอันตรายมากน้อยเพียงใด แต่รู้หรือไม่ว่า อาการปวดหลัง หรือสะโพกร้าวลงขานั้นสามารถที่จะเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งแต่ละสาเหตุนั้นมี อาการและความรุนแรงต่างกันอีกด้วย
สาเหตุ อาการปวดหลัง หรืออาการปวดร้าวลงขา
อาการปวดหลัง จะเกิดจากความผิดปกติของทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อนั้น สามารถที่จะพบได้บ่อยในโรคต่าง ๆ เช่น หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวปลิ้น (lumbar disc herniation) หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนระดับเอวเสื่อม (lumbar spondylosis) หรือกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (piriformis syndrome) เป็นต้น โดยเราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรค และลักษณะอาการ รวมถึงการรักษาทางกายภาพบำบัดของทั้งสามโรคนี้กัน
จะเกิดจาก การเสื่อมตัวลงของหมอนรองกระดูกสันหลัง ส่วนมากมักเกิดตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยเกิดจากการที่ของเหลวภายในหมอนรองกระดูกลดลง ทำให้หมอนรองกระดูกยุบลง และช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลัง (intervertebral foramen) ที่เป็นทางผ่านของเส้นประสาทมีความแคบลง และหากช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลังนี้แคบลงมาก ก็จะทำให้สามารถไปกดเส้นประสาทที่ผ่านออกมาได้ โดยโรคนี้พบได้ 3 – 10% ของผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลัง อาการที่จะแสดงคือ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหลังส่วนล่างร้าวลงสะโพกและขาตามแนวของเส้นประสาทที่โดนกดทับนั้น ๆ เมื่อมีการทำกิจกรรมที่มีการลงน้ำหนักที่กระดูกสันหลังมาก เช่น การยืนนาน หรือเดินนาน ๆ โดยจะมีอาการดีขึ้นเมื่อได้นั่งพัก ก้มตัวยืดเหยียดกล้ามเนื้อ หรือนอนพัก และหากมีการกดทับของเส้นประสาทมากขึ้นจะทำให้การส่งกระแสประสาทไปยังกล้ามเนื้อต่าง ๆ ลดลง และอาจจะส่งผลให้กำลังของกล้ามเนื้อลดลงตามมาได้ ในการรักษาหากการกดทับเส้นประสาทนั้นอยู่ในระดับที่รุนแรงไม่มากสามารถรักษาด้วยวิธีการทางกายภาพบำบัดได้ เช่น การดึงหลัง (lumbar traction) การรักษาด้วยการขยับข้อต่อ (mobilization) และการออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (core stabilizer exercise)5 แต่หากมีการกดทับเส้นประสาทในระดับที่รุนแรงมาก ๆ และส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก แพทย์จะทำการพิจารณาทำการผ่าตัดเพื่อขยายช่องระหว่างข้อต่อและ ใส่อุปกรณ์ยึดกระดูกสันหลังไว้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ผู้ให้การรักษา
หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวปลิ้น (lumbar disc herniation)
จะเกิดจากการที่ของเหลวภายในหมอนรองกระดูกสันหลัง (nucleus pulposus) มีการปลิ้นออกมาเนื่องจากแรงดันภายในที่มากขึ้น ซึ่งส่วนมากเกิดจากการก้มตัวยกของหนัก ๆ เป็นประจำ หรือนั่งอยู่ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม เช่น นั่งหลังค่อมเป็นเวลานาน ๆ ก็จะทำให้เกิดแรงดันให้ของเหลวภายในเคลื่อนมาทางด้านหลังและหากเกิดแรงที่มากพอร่วมกับโครงสร้างด้านหลังไม่แข็งแรง ก็จะทำให้ของเหลวนั้นปลิ้นออกมาด้านนอกหมอนรองกระดูกสันหลังได้ โดยด้านหลังหมอนรองกระดูกสันหลังนั้นประกอบไปด้วยไขสันหลัง (spinal cord) และเส้นประสาทที่ออกมาจากช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลัง (intervertebral foramen) หากของเหลวที่ปลิ้นออกมานั้นมากถึงระดับนึง และได้ไปกดไขสันหลังหรือเส้นประสาท ก็จะทำให้เกิดอาการปวดหลังร้าวลงสะโพกและขาได้ โดยจะมีอาการปวดมากขึ้นเมื่อมีน้ำหนักกดลงที่กระดูกสันหลังมาก เช่น การยืนนาน ๆ หรือเดินนาน นั่งนาน หรือก้มตัว และอาการจะดีขึ้นเมื่อได้นอนคว่ำหรือนอนแอ่นหลัง แต่หากอยู่ในระยะที่อักเสบมากจะปวดแม้กระทั่งการนอนแอ่นหลัง และหากเกิดการกดทับเส้นประสาทมากขึ้นจะทำให้การส่งกระแสประสาทไปยังกล้ามเนื้อต่าง ๆ ลดลงและอาจส่งผลให้กำลังของกล้ามเนื้อลดลงตามมาได้ ในการรักษาทางกายภาพบำบัดนั้นจะสามารถรักษาได้หากหมอนรองกระดูกปลิ้นในความรุนแรงขั้นต้นได้ โดยการรักษาด้วยวิธีการทางกายภาพบำบัดจะมีการรักษาด้วยการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อลดการอักเสบของเส้นประสาท และออกกำลังกายเพื่อให้ของเหลวที่ปลิ้นออกมานั้นกลับเข้าที่ พร้อมกันกับออกกำลังกายกล้ามเนื้อหลังและกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ แต่ถ้าหากผู้ป่วยมีหมอนรองกระดูกปลิ้นในระดับที่รุนแรงมาก แพทย์จะพิจารณาผ่าตัดเพื่อนำของเหลวที่ปลิ้นออกมานั้นออก
กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (piriformis syndrome)
จะเกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อสะโพกซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ๆ เช่น จากการนั่งทำงานนาน นั่งขับรถเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อสะโพกทำงานหนักและเกร็งค้างไม่ยอมคลายตัวออก โดยข้างใต้กล้ามเนื้อนี้มีเส้นประสาทที่ชื่อว่า sciatic วางตัวลอดผ่านยาวลงมาตามรยางค์ขา เมื่อกล้ามเนื้อสะโพกหดเกร็งมาก ๆ ก็จะไปกดทับเส้นประสาท sciatic และจะทำให้มีอาการปวดร้าวลงขาตามแนวของเส้นประสาท sciatic ได้ ในการรักษาทางกายภาพบำบัดจะรักษาเพื่อคลายกล้ามเนื้อด้วยการยืดกล้ามเนื้อสะโพก หรือการขยับเส้นประสาท (sciatic nerve mobilize) และใช้เครื่องมือ เพื่อลดการอักเสบของเส้นประสาทที่ถูกกดทับบริเวณสะโพก และการรักษาทางการแพทย์โดยทั่วไปจะให้ยาบำรุงปลายประสาทหรือยาคลายกล้ามเนื้อร่วมด้วย
สรุป
อาการปวดหลังและปวดร้าวลงขาเป็นปัญหาที่พบบ่อย โดยอาจเกิดจากหลายสาเหตุซึ่งมีระดับความรุนแรงและการรักษาที่แตกต่างกันไป การรู้เท่าทันอาการและการรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม
สาเหตุของอาการปวดหลังและปวดร้าวลงขา
อาการปวดหลังและสะโพกร้าวลงขาสามารถเกิดจากความผิดปกติในระบบกระดูก กล้ามเนื้อ และเส้นประสาท รวมถึงสาเหตุสำคัญที่พบได้บ่อย เช่น
หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวเสื่อม (Lumbar Spondylosis) หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวเสื่อมเกิดจากการเสื่อมตัวของหมอนรองกระดูกสันหลัง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เมื่อหมอนรองกระดูกยุบตัวและของเหลวภายในหมอนรองกระดูกลดลง ช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลังก็จะแคบลง ซึ่งอาจไปกดทับเส้นประสาทที่ผ่านช่องนี้ ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังร้าวลงขา โดยเฉพาะเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องลงน้ำหนักบนกระดูกสันหลัง เช่น ยืนนาน เดินไกล หรือนั่งท่าเดิมนาน อาการจะดีขึ้นเมื่อได้พักหรือยืดเหยียดกล้ามเนื้อ หากเส้นประสาทถูกกดทับมากขึ้นก็อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงตามมาได้
การรักษา: หากการกดทับเส้นประสาทไม่รุนแรง สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการกายภาพบำบัด เช่น การดึงหลัง (Lumbar Traction) การขยับข้อต่อ (Mobilization) และการออกกำลังกายกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Stabilizer Exercise) ในกรณีที่มีการกดทับเส้นประสาทรุนแรงมาก แพทย์อาจพิจารณาผ่าตัดเพื่อขยายช่องว่างและใส่อุปกรณ์ยึดกระดูกสันหลัง
หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวปลิ้น (Lumbar Disc Herniation) หมอนรองกระดูกปลิ้นเป็นภาวะที่ของเหลวภายในหมอนรองกระดูกสันหลัง (Nucleus Pulposus) ถูกแรงดันให้ปลิ้นออกมา ซึ่งมักเกิดจากการยกของหนักอย่างผิดวิธีหรือการนั่งที่ไม่ถูกสุขลักษณะเช่น นั่งหลังค่อมเป็นเวลานาน อาการของหมอนรองกระดูกปลิ้นคือปวดหลังร้าวลงขา ซึ่งอาจรุนแรงมากขึ้นเมื่อยืนนาน เดินไกล หรือก้มตัว อาการจะดีขึ้นเมื่อได้นอนพัก โดยเฉพาะนอนคว่ำหรือแอ่นหลัง ในกรณีที่เส้นประสาทถูกกดทับมากอาจทำให้กล้ามเนื้อที่ควบคุมโดยเส้นประสาทนั้นอ่อนแรงได้เช่นกัน
การรักษา: หากระดับความรุนแรงไม่มาก การกายภาพบำบัดสามารถช่วยลดการอักเสบของเส้นประสาทที่ถูกกดทับ และช่วยให้ของเหลวที่ปลิ้นกลับสู่ตำแหน่งเดิม พร้อมออกกำลังกายเพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังและแกนกลางลำตัว อย่างไรก็ตาม หากการกดทับรุนแรงแพทย์อาจพิจารณาการผ่าตัดเพื่อนำของเหลวที่ปลิ้นออกมาออก
กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (Piriformis Syndrome) กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทเกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อสะโพกมากเกินไปหรือนั่งในท่าเดิมเป็นเวลานาน กล้ามเนื้อสะโพกที่เกร็งค้างไว้อาจกดทับเส้นประสาทไซอาติก (Sciatic Nerve) ที่ลอดผ่านอยู่ใต้กล้ามเนื้อนี้ ส่งผลให้มีอาการปวดร้าวลงขาตามแนวเส้นประสาท
การรักษา: การกายภาพบำบัดสามารถช่วยได้ด้วยการยืดกล้ามเนื้อสะโพก การขยับเส้นประสาท (Sciatic Nerve Mobilize) และใช้เครื่องมือเพื่อลดการอักเสบ นอกจากนี้ยังอาจใช้ยาบำรุงประสาทหรือยาคลายกล้ามเนื้อเพื่อช่วยบรรเทาอาการ
การรักษาและดูแล
สำหรับการรักษาอาการปวดหลังและปวดร้าวลงขาจากสาเหตุทั้งสามแบบข้างต้น การกายภาพบำบัดมีบทบาทสำคัญในการช่วยบรรเทาอาการ โดยเน้นการยืดกล้ามเนื้อ การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว และการลดการกดทับเส้นประสาทในระยะยาว การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การนั่งให้ถูกสุขลักษณะ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อบ่อย ๆ การหลีกเลี่ยงการยกของหนัก การพักผ่อนเพียงพอ และการปรับท่าทางในการทำงานก็มีความสำคัญเช่นกัน
ในกรณีที่อาการรุนแรง การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกที่แพทย์แนะนำโดยเฉพาะหากการกดทับเส้นประสาทมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังร้าวลงขาควรสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
การดูแลสุขภาพหลังจากการรักษาและฟื้นฟูสำคัญต่อการป้องกันการเกิดซ้ำของปัญหานี้ ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ หากมีการออกกำลังกายเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังและควบคุมการใช้งานกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสม
โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็ก บริการรับดูแล และ การรักษา การบำบัด การพยาบาลและการฟื้นฟูร่างกาย ผู้สูงอายุและผู้ป่วย โดยทีมสหวิชาชีพ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลและนักกายภาพบำบัด ผ่านการรับรองมาตรฐานของกระทรวงสาธารสุข
เรารับอาสาดูแลคนที่ท่านรัก เพื่อแบ่งเบาภาระของท่าน โดยทีมงานมืออาชีพมากด้วยประสบการณ์ จากทีมงานสหวิชาชีพผู้ชำนาญการ และเราพร้อมให้บริการ ที่พักแก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ทั้งประจำและไป – กลับ รายวันและรายเดือน เช่น ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยเรื้อรัง ติดเตียง หรือต้องการพักฟื้น เน้นการฟื้นฟูและการบำบัด
Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140
Tel : 099 914 1595 ( คุณแพรว )
Line : @smilehospital24
E-mail : [email protected]
Tiktok : @smilepthospital.com
YouTube : @user-je7ou7rm9b
FaceTBook : โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ (Smile Physical Therapy Hospital)