
รองช้ำคืออะไร?
รองช้ำ หรือ โรครองช้ำ (Plantar Fasciitis) เป็นภาวะที่เกิดการอักเสบของเอ็นฝ่าเท้าที่เรียกว่า “พังผืดใต้ฝ่าเท้า” หรือ Plantar Fascia พังผืดนี้ทำหน้าที่รองรับโค้งของฝ่าเท้า และช่วยซับแรงกระแทกในขณะที่เราเดินหรือยืน เมื่อเกิดการบาดเจ็บหรือใช้งานมากเกินไป พังผืดใต้ฝ่าเท้าจะเกิดการอักเสบ ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวดบริเวณส้นเท้า หรือฝ่าเท้า ซึ่งอาการเจ็บจะเด่นชัดมากขึ้น เมื่อลุกจากเตียงตอนเช้า หรือหลังจากพักเท้าเป็นเวลานาน
โรครองช้ำ อาการของรองช้ำ
โรครองช้ำ อาการหลักของรองช้ำ คือการปวดบริเวณส้นเท้าหรือฝ่าเท้า อาการปวดจะเด่นชัดเมื่อลุกขึ้นยืน หรือลงน้ำหนักที่เท้าหลัง จากการพักเท้าเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อตื่นนอนในตอนเช้า อาการปวดอาจลดลงหลัง จากที่เดินไปสักพัก แต่จะกลับมาเจ็บอีก หลังจากการเดินนาน ๆ หรือการยืนนาน ๆ บางคนอาจรู้สึกเจ็บแบบแปลบ หรือเจ็บคล้ายถูกแทงที่ส้นเท้า รองช้ำอาจมีอาการในหลายระดับ บางรายมีอาการเจ็บเล็กน้อย และหายไปหลังจากพักผ่อน แต่ในบางกรณีอาจมีอาการเจ็บรุนแรง จนส่งผลต่อการเดิน และการทำกิจกรรมประจำวัน
การวินิจฉัยรองช้ำการวินิจฉัย รองช้ำส่วนใหญ่ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะพิจารณาจากอาการเจ็บปวดบริเวณส้นเท้า และการตรวจร่างกาย โดยแพทย์อาจกดบริเวณส้นเท้า และฝ่าเท้าเพื่อตรวจสอบตำแหน่งที่มีอาการเจ็บ นอกจากนี้แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยถ่ายภาพรังสี (X-ray) หรือการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) เพื่อดูสภาพของพังผืดใต้ฝ่าเท้า และเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาหรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระดูกส้นเท้างอก (Heel Spur) ซึ่งอาจทำให้มีอาการปวดคล้ายกับรองช้ำได้
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดรองช้ำ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่
ปัจจัยภายใน ได้แก่
- อายุ โดยพบว่าผู้ที่มีอายุมากขึ้น จะมีความยืดหยุ่นของพังผืดฝ่าเท้าลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดรองช้ำได้มากขึ้น
- ภาวะน้ำหนักตัวเกิน หรือมีโรคอ้วน เพราะจะส่งผลให้เกิดแรงกดต่อพังผืดฝ่าเท้ามากขึ้น
- ภาวะที่โครงสร้างของร่างกายมีความผิดปกติ หรือมีความผิดปกติเมื่อเคลื่อนไหว เช่น ผู้ที่มีภาวะแบน ผู้ที่มีการจำกัดการเคลื่อนไหวในการกระดกข้อเท้า และ ผู้ที่มีการตึงรั้งของกล้ามเนื้อน่อง ซึ่งภาวะต่าง ๆ นี้ ส่งผลทำให้เกิดแรงกระทำต่อพังผืดเท้าที่ผิดไปจากปกติ
ปัจจัยภายนอก ได้แก่
- ลักษณะงาน เนื่องจากอาชีพที่ต้องเดินลงน้ำหนักนาน ๆ หรือผู้ที่ต้องยืนทำงานเป็นระยะเวลานาน จะมีความเสี่ยงที่เกิดโรครองช้ำได้ง่าย
- การออกกำลังกายที่มากเกินไป หรือมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยเฉพาะในนักวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวการวิ่ง จากการวิ่งบนพื้นผิวแข็งเปลี่ยนเป็นพื้นผิวขรุขระ มีการเปลี่ยนวิธีการซ้อม เช่น เพิ่มความเร็วในการวิ่งแบบทันทีทันใด รวมไปถึงมีวิธีการวิ่งผิดไปจากเทคนิคปกติ
- ลักษณะของรองเท้า โดยรองเท้าที่ใส่ขนาดเล็กเกินไป หรือพื้นรองเท้าแข็งจนเกินไป จะส่งผลให้มีการเพิ่มแรงที่กระทำต่อพังพืดใต้ฝ่าเท้าได้
วิธีการปฏิบัติตัวเบื้องต้นเมื่อเป็นโรครองช้ำ
วิธีการปฏิบัติตัว ที่แนะนำสำหรับผู้ป่วยรองช้ำอับดับแรก คือให้ลดปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดโรคดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมน้ำหนักตัว การใส่รองเท้าที่มีพื้นนิ่ม หรือไม่มีขนาดที่เล็กจนเกินไป ส่วนในนักวิ่งที่มีอาการของโรครองช้ำจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการวิ่ง เพื่อลดแรงกระทำต่อฝ่าเท้า และทดแทนการวิ่งด้วยการปั่นจักรยานหรือว่ายน้ำแทน เพื่อคงสภาพความแข็งแรงของระบบหัวใจและหลอดเลือด หากผู้ป่วยอยู่ในระยะอักเสบ หรือกล่าวคือ มีอาการปวด บวม สีผิวมีลักษณะเป็นสีแดง และเมื่อใช้มือสัมผัสบริเวณดังกล่าวแล้วรู้สึกอุ่น ผู้ป่วยควรประคบเย็นบริเวณส้นเท้า และลดการใช้งานเท้า เพื่อลดอาการอักเสบก่อน และเมื่ออาการอักเสบลดลงแล้ว จะแนะนำให้ผู้ป่วยนำลูกเทนนิส หรือลูกกอล์ฟมาคลึงบริเวณใต้ฝ่าเท้า เพื่อลดความตึงตัวของพังผืดฝ่าเท้า
หากปฏิบัติตัวตามที่แนะนำ ในเบื้องต้นแล้วอาการยังไม่ทุเลาลง ควรปรึกษาแพทย์ หรือเข้ารับการรักษา ทางกายภาพบำบัด ซึ่งจากการศึกษาพบว่าผู้ป่วยโรครองช้ำ ส่วนใหญ่สามารถหายได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
การรักษาทางกายภาพบำบัด นั้นจะมีทั้งการใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด เช่น เครื่องอัลตราซาวน์ หรือเครื่องเลเซอร์ เพื่อให้ระยะของการอักเสบผ่านไปเร็วขึ้น และกระตุ้นการซ่อมแซมพังผืดเท้า บริเวณที่บาดเจ็บ ร่วมกับการบริหารร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการยืดกล้ามเนื้อน่อง การยืดพังผืดฝ่าเท้า หรือการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดเล็กภายในฝ่าเท้า ซึ่งหากผู้ป่วย ได้รับการรักษาดังที่กล่าวมาในข้างต้นเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น อาจจำเป็นต้องใช้การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shock wave therapy) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซม บริเวณดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น
การป้องกันการเกิดรองช้ำสามารถทำได้โดยการลดความเสี่ยงที่ทำให้พังผืดใต้ฝ่าเท้าบาดเจ็บ ดังนี้:
การเลือกใช้รองเท้าที่เหมาะสม: สวมรองเท้าที่มีการรองรับโค้งฝ่าเท้าที่ดี โดยเฉพาะถ้าต้องยืนหรือเดินนาน ๆ หลีกเลี่ยงรองเท้าที่แบนหรือไม่มีการรองรับฝ่าเท้า
การควบคุมน้ำหนัก: การรักษาน้ำหนักให้อย
วิธีการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรครองช้ำ
- ท่ายืดพังผืดฝ่าเท้า: ให้ผู้ป่วยนั่ง ใช้มือข้างหนึ่งจับบริเวณนิ้วโป้งเท้า มืออีกข้างจับบริเวณส้นเท้า แล้วออกแรงดันกระดกนิ้วโป้งขึ้น ให้ผู้สึกตึงบริเวณฝ่าเท้า แต่ไม่มีอาการเจ็บ ค้างไว้ 30 วินาที ทำ 3 ครั้ง
- ท่ายืดกล้ามเนื้อน่อง: ให้ผู้ป่วยยืน นำขาข้างที่ต้องการยืดไปไว้ด้านหลัง จากนั้นให้ย่อเข่าด้านหน้า ขาหลังเหยียดตรงส้นเท้าแนบกับพื้น ให้รู้สึกตึงบริเวณน่องของขาด้านหลัง ค้างไว้ 10 วินาที ทำ 3 ครั้ง
- ท่าเพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อมัดเล็กในฝ่าเท้า: ให้ผู้ป่วยใช้ผ้าขนหนูวางไว้ใต้เท้าข้างที่มีอาการ จากนั้นให้ผู้ป่วยใช้เท้าขยุ้มผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา เหมือนกำลังจะใช้เท้าหยิบของ ทำ 10 ครั้ง จำนวน 3 รอบ
- ท่าเพิ่มความแข็งแรงพังผืดใต้ฝ่าเท้า: ให้ผู้ป่วยยืนบริเวณขอบบันได ให้ส้นเท้าเลยขอบบันไดออกมา จากนั้นให้ทำการออกกำลังกายด้วยการเขย่งเท้าทั้ง 2 ข้างขึ้น จากนั้นให้ยกขาข้างที่ไม่มีอาการ แล้วค่อย ๆ หย่อนส้นเท้าข้างที่มีอาการลง ทำวน 1 รอบนับเป็น 1 ครั้ง ทำทั้งหมด 10 ครั้ง จำนวน 3 รอบ โดยท่าออกกำลังกายนี้ จะไม่แนะนำในผู้ที่ยังมีอาการปวดค่อนข้างมากอยู่ เพราะอาจจะทำให้มีอาการปวดเพิ่มขึ้นได้
โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็ก บริการรับดูแล และ การรักษา การบำบัด การพยาบาลและการฟื้นฟูร่างกาย ผู้สูงอายุและผู้ป่วย โดยทีมสหวิชาชีพ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลและนักกายภาพบำบัด ผ่านการรับรองมาตรฐานของกระทรวงสาธารสุข
เรารับอาสาดูแลคนที่ท่านรัก เพื่อแบ่งเบาภาระของท่าน โดยทีมงานมืออาชีพมากด้วยประสบการณ์ จากทีมงานสหวิชาชีพผู้ชำนาญการ และเราพร้อมให้บริการ ที่พักแก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ทั้งประจำและไป – กลับ รายวันและรายเดือน เช่น ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยเรื้อรัง ติดเตียง หรือต้องการพักฟื้น เน้นการฟื้นฟูและการบำบัด
Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140
Tel : 099 914 1595 ( คุณแพรว )
Line : @smilehospital24
E-mail : [email protected]
Tiktok : @smilepthospital.com
YouTube : @user-je7ou7rm9b
FaceTBook : โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ (Smile Physical Therapy Hospital)