เลขที่ใบอนุญาต 10205000165
โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ Smile Physical Therapy Hospital ให้บริการดูแลฟื้นฟู กายภาพบำบัด ผู้ป่วยทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ด้วยทีมงานคุณภาพ
ติดต่อ กายภาพบำบัด
099 914 1595 ( คุณแพรว )
เลขที่ใบอนุญาต 10205000165
ติดต่อ กายภาพบำบัด
099 914 1595 ( คุณแพรว )

ภาวะบกพร่องด้านการสื่อความหมาย คืออะไร ?

Aphasia

ภาวะบกพร่องด้านการสื่อความหมาย คืออะไร ?

การสื่อสารนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์ โดยเป็นตัวกลางในการถ่ายทอดความหมาย และช่วยแสดงออกถึง ความต้องการระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร และความรู้สึก แต่ถ้าหากวันหนึ่งที่เราไม่สามารถที่จะสื่อสารหรืออธิบายความต้องการนี้ ให้กับคนรอบตัวได้ เกิดเป็นภาวะบกพร่องด้านการสื่อความหมาย เช่น การนึกคำศัพท์ของสิ่งของใกล้ตัวไม่ออกเลย หรือการเรียกสิ่งของนั้น ๆ ผิดไปจากเดิม (Aphasia) ภาวะนี้คืออะไร? และมักจะเจอในผู้ป่วยประเภทไหน เรามาทำความรู้จักและเข้าใจจากบทความนี้กันค่ะ

ในภาวะบกพร่องด้านการสื่อความหมาย นั่นคือความผิดปกติทางด้านการใช้ภาษา เพื่อสื่อสารความหมาย ทั้งการคิดคำพูด และการออกเสียงพูดให้เป็นประโยค และยังอาจรวมไปถึงปัญหาทางด้านการอ่าน หรือเขียนร่วมด้วย เช่น ผู้ป่วยบางรายสามารถที่จะพูดเป็นประโยคได้เหมือนปกติ แต่มีการใช้คำพูดที่ผิดปกติไปจากเดิม หรือการใช้คำศัพท์ที่ไม่ถูกต้อง เป็นต้น ความผิดปกติดังกล่าวนี้ อาจจะเกิดจากความบกพร่องของการทำงานของสมอง ในตำแหน่งที่ทำหน้าที่ด้านการสื่อสาร ซึ่งมาจากหลายสาเหตุ เช่น โรคทางระบบประสาท (Neurological disease) การได้รับการบาดเจ็บที่ศีรษะ (Traumatic brain injury: TBI) เนื้องอกที่สมอง (Brain tumor) โดยสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะนี้ก็คือโรคหลอดเลือดสมอง โดยพบมากถึงประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโดยทั้งหมด และมีอัตราส่วนที่เกิดระหว่าง ผู้ชาย และ ผู้หญิง เท่า ๆ กัน อีกทั้งยังสัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ภาวะบกพร่องด้านการสื่อความหมาย (Aphasia)

(Aphasia) โดยทั่วไปแล้วเนื้อสมองที่เสียหาย และยังส่งผลต่อภาวะบกพร่อง ด้านการสื่อความหมายมักจะเป็นตำแหน่งของสมองบริเวณ Broca และ Wernicke โดยอาการที่แสดงจะแตกต่างกันตามตำแหน่ง และความรุนแรงของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเนื้อสมองบริเวณนี้ ส่วนมากมักจะเกิดขึ้นที่สมองซีกซ้ายในบริเวณส่วนที่ควบคุมภาษา และการสื่อสาร (Dominant hemisphere)

Broca’s area

จะอยู่บริเวณตำแหน่งทางด้านล่าง ของสมองส่วนหน้า (Frontal area) และเป็นศูนย์กลางในการสั่งการในด้านการพูด และการสื่อสาร เมื่อเนื้อสมองบริเวณนี้ได้รับความเสียหาย ก็จะส่งผลให้นึกคำพูดที่ลำบาก พูดช้าหรือเร็วผิดจากจังหวะการพูดที่ปกติ อาจพูดตอบไม่ตรงคำถาม รวมไปถึงผิดอักขระภาษา แต่ยังสามารถเข้าใจสิ่งที่ฟังและอ่านรู้เรื่องได้ พื้นที่สมองส่วน Broca นี้ถูกเลี้ยงด้วยแขนงของหลอดเลือดแดง Middle cerebral artery

Wernicke’s area

เป็นเนื้อสมองบริเวณด้านข้าง และอยู่หลังถัดจากสมองส่วนหน้า (Parietal lobe) ซึ่งจะตั้งอยู่ด้านหลังของศูนย์กลางของการได้ยิน เนื้อสมองส่วนนี้มีหน้าที่สำคัญมาก ๆ ในการรับและประมวลข้อมูลจากการมองเห็น และการได้ยิน มาแปลความให้เกิดความเข้าใจ ความหมายของข้อมูลดังกล่าวนั่นเอง และจะยังสร้างเป็นภาษาพูดเพื่อสื่อความหมายและส่งข้อมูลไปสร้างเป็นคำพูดที่ Broca’s area ต่อไป ความเสียหายที่เกิดขึ้นที่เนื้อสมองส่วนนี้จะส่งผลให้ผู้ป่วย ไม่สามารถเข้าใจและแปรความหมายของโสตสัมผัสที่รับเข้ามา รวมถึงไม่สามารถสร้างภาษาอธิบายเพื่อการสื่อสารได้ โดย Wernicke’s area   ซึ่งถูกเลี้ยงด้วยแขนงของหลอดเลือดแดงMiddle cerebral artery

Arcuate fasciculus

เป็นทางที่เชื่อมของข้อมูล ระหว่างสมองบริเวณ Wernicke และ Broca ภายในสมองใหญ่ ซึ่งที่พยาธิสภาพจากบริเวณดังกล่าวจะส่งผล ให้ข้อมูลจากเนื้อสมองทั้งสองส่วนขาดการติดต่อกัน ทำให้ผู้ป่วยแสดงภาวะ aphasia ได้

ประเภทของภาวะบกพร่องด้านการสื่อความหมาย

สามารถแบ่งได้ออกเป็น 5 ประเภท

  1. ภาวะบกพร่องทางด้านความเข้าใจ (Wernicke’s aphasia: Receptive)

มักจะเกิดจากการที่สมองส่วนกลางซีกซ้าย ได้รับความเสียหาย ของเนื้อสมองบริเวณ Wernicke ส่งผลให้ผู้ป่วยยังสามารถพูดได้คล่องเหมือนปกติ พูดได้แบบชัดเจน ไม่ตะกุกตะกัก แต่ไม่สามารถที่จะเข้าใจในสิ่งที่เขียน หรือสิ่งที่พูดได้ อาจจะตอบไม่ตรงคำถาม หรืออาจพูดประโยคที่ไม่มีความหมาย ทำให้คู่สนทนานั้น ไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการจะสื่อสาร ในบางรายอาจสร้างคำพูดใหม่ขึ้นมาเอง หรือเรียงคำที่ผิดหลักไวยากรณ์

  1. ภาวะบกพร่องด้านการพูด (Broca’s aphasia: Expressive)

มักจะเกิดจากการที่สมองส่วนหน้าซีกซ้ายได้รับความเสียหาย บริเวณ Broca area จึงส่งผลให้มีปัญหาด้านการพูดและเขียน โดยผู้ป่วยสามารถที่จะเข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นสื่อสารได้ แต่ไม่สามารถสื่อสารออกไปได้ ผู้ป่วยจะสามารถสื่อสารได้เพียงแค่ประโยคสั้น ๆ หรือเป็นคำสำคัญ ๆ ในบางครั้งไม่สามารถพูดจนจบประโยคได้ และอาจจะมีนึกคำพูดไม่ออก โดยลักษณะเด่นที่พบบ่อย ได้แก่ พูดไม่คล่อง นึกคำพูดนาน  พูดตะกุกตะกัก เช่น ผู้ป่วยจะออกเสียงคำว่า กายภาพบำบัด เป็น กาน-ยะ-พาบ-บำ-พัด เป็นต้น

  1. ภาวะบกพร่องทั้งด้านความเข้าใจและการพูด (Global’s aphasia)

ซึ่งเป็นผลมาจากความเสียหาย ทั้งส่วนหน้าและส่วนกลางของสมองซีกซ้าย ที่ถูกเลี้ยงโดย Middle cerebral artery จะทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถสื่อสาร และรับสารได้เลย รวมถึงไม่สามารถอ่านหรือเขียนได้ ผู้ป่วยสามารถนึกคำพูดออกมาได้ไม่กี่คำ และเป็นประเภทที่พบได้บ่อยมากที่สุดในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

  1. ภาวะบกพร่องทางการสื่อความ (Conduction aphasia)

มีพยาธิสภาพอยู่ที่บริเวณตำแหน่ง Arcuate fasciculus ผู้ป่วยจะมีความยากหรือไม่สามารถพูดตามได้เลย หรือถ้าหากสามารถพูดตามได้แต่อาจจะผิด มีปัญหาในการใช้คำหรือวลีซ้ำ ๆ

  1. ภาวะบกพร่องด้านการนึกคำพูด (Anomic aphasia)

มีพยาธิสภาพที่ตำแหน่งของ Angular gyrus ซึ่งเป็นประเภทความผิดปกติด้านการสื่อสารที่รุนแรงที่น้อยที่สุด โดยผู้ป่วยจะมีปัญหาแค่ด้านการนึกคำพูดไม่ออกเท่านั้น อาจจะใช้คำพูดอื่นอธิบายโดยอ้อมแทนคำที่ต้องการจะพูด เช่น การพูดว่า “สิ่งที่ใช้ใส่น้ำ” แทนคำว่าแก้ว

การตรวจและการวินิจฉัยเบื้องต้น มีอะไรบ้าง ?

โดยปกติทั่วไปแล้ว ปัญหาด้านการสื่อความหมายอาจไม่ได้เกิดให้เห็นชัดเจนในทันที แต่อาการดังกล่าว เป็นผลกระทบมาจากรอยโรคที่เกิดขึ้นในเนื้อสมองส่วนใหญ่ ดังนั้นอาการแสดงอาจเริ่มสังเกตได้ชัด หลังจากที่ผู้ป่วยผ่านการรักษาในส่วนปฐมภูมิมาแล้ว ทั้งนี้อาการดังกล่าวจะสามารถสังเกตได้ จากการสื่อสารในเบื้องต้น ไปจนถึงการตรวจร่างกายที่เฉพาะเจาะจง คือ

  • การทดสอบความเข้าใจ หรือการใช้คำศัพท์ที่ถูกต้อง และการทวนคำหรือประโยคตามคำบอกโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ โดยจะกำหนดคำมาให้ผู้ป่วยนั้นพูดตาม พูดสนทนากันและเรียกชื่อสิ่งของนั้น ๆ จะพบว่าผู้ป่วยมีความผิดปกติในเรื่องการพูดหรือการเรียบเรียงประโยคหรือไม่ โดยมักจะมีความผิดปกติเกี่ยวกับการใช้คำกริยา คำนาม คำสันธาน คำสรรพนาม คำบุพบท และคำวิเศษณ์การทดสอบความเข้าใจหรือการใช้คำศัพท์ที่ถูกต้อง และการทวนคำหรือประโยคตามคำบอกโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ โดยจะกำหนดคำมาให้ผู้ป่วยพูดตาม พูดสนทนากันและเรียกชื่อสิ่งของ จะพบว่าผู้ป่วยมีความผิดปกติในเรื่องการพูดหรือการเรียบเรียงประโยค โดยมักจะมีความผิดปกติเกี่ยวกับการใช้คำกริยา คำสรรพนาม คำบุพบท และคำวิเศษณ์ คำนาม คำสันธาน
  • การใช้แบบประเมิน เพื่อระบุประเภท และระดับความรุนแรง อย่างเช่น Western aphasia battery เป็นการตรวจประเมินและวินิจฉัยความพิการทางด้านการสื่อความหมายทั้งประเภทและระดับความรุนแรง โดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อวิเคราะห์ขอบเขตความเสียหายของสมอง และBoston diagnostic aphasia examination เป็นการประเมินทักษะทางภาษาตามรูปแบบการรับรู้
  • การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และเครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อดูสาเหตุและตำแหน่งของพยาธิสภาพที่เกิดขึ้นบริเวณสมอง

หากพบอาการแสดงจากภาวะ aphasia และจัดการรักษาตั้งแต่แรก ๆ จะให้ผลการรักษาได้ดีกว่าการปล่อยอาการไว้ ในระยะเวลานาน ๆ  ทั้งนี้แนวทางการรักษาจะดำเนินไปพร้อม ๆ กับการรักษาตามอาการหลอดเลือดสมอง ประกอบไปด้วย

  • การเข้ารับการรักษา ตามอาการและสาเหตุที่เกิด เช่น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (CVA) รักษาด้วยการได้รับยา rt-PA, mechanical thrombectomy หรือ Carotid endarterectomy ผู้ป่วย hemorrhagic CVA, TBI, brain tumors รักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อลดแรงดันภายในกะโหลก (Surgical decompression) หรือสาเหตุจากการติดเชื้อ รักษาโดยการให้ยาสเตียรอยด์ (Steroids) ยาต้านไวรัส (Antivirals) หรือยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)
  • การรักษาด้วยยา ภายในช่วงระยะเฉียบพลันที่ผู้ป่วยมีอาการ เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดภายในสมอง ช่วยการฟื้นฟูการทำงานของสมอง และทดแทนสารสื่อประสาทที่ถูกทำลายไป
  • การรักษาด้วยเครื่องมือ การกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าผ่านกะโหลกศีรษะ และการกระตุ้นสมองด้วยกระแสไฟฟ้า อย่างอ่อนผ่านกะโหลกศีรษะ
  • วิธีการบำบัดเรื่องการพูด และภาษา (Speech and language therapy): ฝึกฝน และทบทวนการใช้คำต่าง ๆ การใช้ประโยค หรือการสร้างประโยคที่ถูกต้อง การพูดทวน หรือการถาม-ตอบ
  • การแนะนำและให้ความรู้ที่เกี่ยวกับตัวโรคที่ถูกต้องแก่ญาติและผู้ดูแล เพื่อกระตุ้นให้เกิดความตระหนัก และเข้าใจผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการกายภาพฟื้นฟู เช่น การพูดช้า ๆ แบบชัด ๆ ค่อย ๆ การไม่เร่งเร้าให้ผู้ป่วยพูด หรือการให้ผู้ป่วยเขียนเพื่อช่วยในการสื่อสาร ถ้ายังนึกคำไม่ออก
  • การรักษาเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น อาการซึมเศร้า หรือภาวะเครียด

ในขณะที่ทำการรักษาทางกายภาพบำบัด นอกเหนือจากการฟื้นฟูศักยภาพทางกายแล้ว จะคำนึงถึงการกระตุ้นในด้านของการสื่อความหมายของผู้ป่วย ที่มีปัญหาภาวะนี้ร่วมด้วย เช่น การฝึกให้พูดทวนประโยคหรือคำสั่งที่ให้ทำตาม การฝึกถามตอบคำถามง่าย ๆ ที่ไม่ซับซ้อน รวมไปถึงการฝึกเขียนหรือฝึกอ่านร่วมด้วย เพราะในภาวะนี้ อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะซึมเศร้า หรือเครียดได้ และเนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถสื่อสารกับคนรอบข้างหรือคนในครอบครัวได้เหมือนเดิม ไม่สามารถบ่งบอกถึงความต้องการหรือสิ่งที่อยากทำได้ ซึ่งผู้ป่วยควรได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุด เพราะยิ่งรักษาได้เร็วเท่าไหร่ประสิทธิภาพในการกายภาพฟื้นฟูยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น โดยในระยะเวลาในการฟื้นฟูขึ้นอยู่กับประเภท ความรุนแรง และแรงจูงใจในการฝึกของผู้ป่วยด้วยนั่นเองค่ะ

โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็ก บริการรับดูแล และ การรักษา การบำบัด การพยาบาลและการฟื้นฟูร่างกาย ผู้สูงอายุและผู้ป่วย โดยทีมสหวิชาชีพ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลและนักกายภาพบำบัด ผ่านการรับรองมาตรฐานของกระทรวงสาธารสุข

เรารับอาสาดูแลคนที่ท่านรัก เพื่อแบ่งเบาภาระของท่าน โดยทีมงานมืออาชีพมากด้วยประสบการณ์ จากทีมงานสหวิชาชีพผู้ชำนาญการ และเราพร้อมให้บริการ ที่พักแก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ทั้งประจำและไป – กลับ รายวันและรายเดือน เช่น ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยเรื้อรัง ติดเตียง หรือต้องการพักฟื้น เน้นการฟื้นฟูและการบำบัด

Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140

Smile Physical Therapy Hospital โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ 87 หมู่9 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ประเทศไทย 11140

Tel : 099 914 1595 ( คุณแพรว )

Line : @smilehospital24

E-mail : [email protected]

Tiktok : @smilepthospital.com

YouTube : @user-je7ou7rm9b

FaceTBook : โรงพยาบาลกายภาพบำบัดสไมล์ (Smile Physical Therapy Hospital)

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top
กายภาพบำบัด

099 914 1595 คุณแพรว